นายจาง เหลียงกัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมพร้อมเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2564 โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยมีจำนวนหุ้นกู้ที่เสนอขายรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 3,000 ล้านบาท
หุ้นกู้รุ่นอายุ 2 ปี 20 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2566 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยเริ่มชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 19 มกราคม 2565 เสนอขายในวันที่ 28 กันยายน 2564 วันเดียว
หุ้นกู้รุ่นอายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2567 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.75% ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยเริ่มชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 1 มกราคม 2565 เสนอขายในวันที่ 28 - 30 กันยายน 2564
โดยการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ ถือเป็นการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2 ของบริษัทฯ หลังจากที่เคยเสนอขายไปเมื่อปี 2562 พร้อมแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้เพื่อเสนอขายต่อผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น
หุ้นกู้ RISLAND ได้รับการค้ำประกันจาก บริษัท คันทรี การ์เด้น โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ RISLAND โดยเป็นการค้ำประกับแบบเต็มจำนวนอย่างไม่มีเงื่อนไข และเพิกถอนไม่ได้ ทำให้หุ้นกู้ RISLAND ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ "AA(tha)" แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงตำแหน่งผู้นำของ คันทรี การ์เด้น ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุดของจีน คันทรี การ์เด้น มีที่ดินกระจายอยู่ในหลายภูมิภาคมากที่สุดในประเทศจีนเมื่อเปรียบเทียบคู่แข่ง ซึ่งส่งผลให้คันทรี การ์เด้น สามารถรักษาระดับรายได้ได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ คันทรี การ์เด้น ยังเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก โดยล่าสุดติดอันดับที่ 139 ใน Fortune Global 500 ("The World's 500 Largest Public Companies") และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงมีการดำเนินธุรกิจอย่างครบวงจร และยังมีการขยายธุรกิจไปยังภาคส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงด้าน Robotics และ Modern Agriculture โดยคาดว่าธุรกิจเหล่านี้จะสร้าง Synergy ต่อกลุ่มธุรกิจโดยรวม และนอกจากธุรกิจในประเทศจีนแล้ว คันทรี การ์เด้น ยังมีธุรกิจอยู่ทั่วโลก ทั้งฮ่องกง สหรัฐอเมริกา อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมถึงไทย
ผลประกอบล่าสุด สำหรับงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 คันทรี การ์เด้น มีรายได้รวมเท่ากับ 2.35 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.0 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2.24 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ในส่วนของสภาพคล่อง (ซึ่งวัดจากเงินสดและสินทรัพย์ที่มีสถานะเทียบเท่าเงินสด) อยู่ที่ 1.86 ล้านหยวน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเงินสดและเงินฝากกับสถาบันการเงินที่อยู่ในรูปเงินหยวน และในรูปการฝากเงินจำนวนหนึ่งที่ได้จากการขาย Pre-sales ไว้กับสถาบันการเงิน (Restricted Cash) สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของผู้ค้ำประกัน
นายจาง เหลียงกัง กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ RISLAND เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2560 ปัจจุบัน RISLAND มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยทั้งหมด 7 โครงการ แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ Lake Serene Rama 2 และโครงการคอนโดมีเนียมอีก 6 โครงการ ได้แก่โครงการ Artisan Ratchada โครงการ Cloud Thonglor Petchaburi โครงการ Cloud Residence Sukhumvit โครงการ The Livin Petkasem โครงการ The Livin Ramkhamheang และโครงการ Skyrise Avenue นอกจากนี้ ยังมีโครงการใน จังหวัดภูเก็ตอีก 1 โครงการซึ่งอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
RISLAND มียอดขายในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 ทั้งสิ้น 4,166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากโครงการคอนโดมิเนียมที่เติบโตกว่า 79.66% ขณะที่ในปี 2563 มียอดขาย 6,594 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192.81% เมื่อเทียบปีก่อนหน้าที่มียอดขายอยู่ที่ 2,252 ล้านบาท ยอดขายส่วนใหญ่มาจากโครงการคอนโดมิเนียมเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของของโรค COVID-19 บริษัทฯ จึงเพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจและไม่ได้เปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2564 ส่วนภาพรวมธุรกิจยังมุ่งเน้นการให้ความสำคัญในการจัดการโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันและเน้นเรื่องการขาย และมีกลยุทธ์ด้านการตลาด รวมถึงการจัดการกับฐานะทางการเงินให้มีเสถียรภาพ
สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ RISLAND มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนขอบริษัทฯ และ/หรือบริหารสภาพคล่องภายในกลุ่มธุรกิจ เพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นในด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย