นายนที ไชยกาล ผู้จัดการฝ่ายมาตรฐานราคาและการจัดซ่อม บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยขึ้นในหลายจังหวัดอันเนื่องมาจากอิทธิพลของร่องมรสุมและพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ ตามรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในช่วงวันที่ 23-29 ก.ย. 2564 เกิดอุทกภัยใน 30 จังหวัด ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 13 จังหวัด และยังคงมีอีก 17 จังหวัดที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ และบางพื้นที่ยังคงต้องเฝ้าระวังจากมวลน้ำที่สะสมที่อาจเกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันได้
วิกฤตน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ได้สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถยนต์ ซึ่งบริษัทฯ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้มีการสั่งการให้วิริยะจิตอาสา เข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือในหลากหลายรูปแบบตามความต้องการของพื้นที่นั้นๆ ส่วนความเสียหายด้านทรัพย์สิน โดยเฉพาะรถยนต์ที่ทำประกันภัยไว้กับบริษัทฯ ล่าสุด บริษัทฯ ได้มีการประชุมหารืออย่างเร่งด่วนถึงความพร้อมในการปฏิบัติการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยรถยนต์ พร้อมทั้งได้มีการกำชับสั่งการไปยังศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนทั่วประเทศ ในการเข้าไปให้ความดูแลลูกค้าอย่างรวดเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ตามรายงานของศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนในพื้นที่เกิดน้ำท่วม ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม - 29 กันยายน 2564 มีรถยนต์ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมครั้งนี้กว่า 777 คัน ประเมินความเสียหายเบื้องต้นรวมเป็นเงินกว่า 26 ล้านบาท โดยแยกเป็นความเสียหายมากสุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 477 คัน รองลงมาเป็นภาคตะวันออก 138 คัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 74 คัน ภาคกลางและภาคตะวันตก 44 คัน ภาคเหนือ 43 คัน และภาคใต้ 1 คัน
นายนที กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมรับมือกับวิกฤตดังกล่าวเป็นอย่างดี ด้วยมีความเชี่ยวชาญจากการนำโมเดลการ "ปฏิบัติการ FIRST AID" มาใช้จนเป็นผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหัวใจหลักของระบบ First Aid อยู่ที่ความรวดเร็วในการฟื้นฟูหรือซ่อมแซม นำรถยนต์ออกจากน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ความเสียหายขยายตัวไปมากกว่าเดิม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการอบรมพัฒนาเสริมสร้างความรู้ความชำนาญให้แก่พนักงาน รวมถึงพัฒนากระบวนการทำงานของปฏิบัติการ FIRST AID อยู่ตลอดเวลา จึงเชื่อมั่นได้ว่าไม่ว่าอุทกภัยจะเกิดขึ้นที่ไหน และมีรถยนต์เสียหายจำนวนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนที่มีอยู่ทุกทิศทั่วไทยก็สามารถทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการสั่งการ"
อย่างไรก็ตาม ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความสะดวกและรวดเร็วมากว่าการประสบเหตุอุทกภัยในครั้งก่อนๆ เพราะปัจจุบัน บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบบริการเคลมสินไหมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะระบบ Viriyah Smart Claim (VSC) อันเป็นการนำสมาร์ทโฟนมาผสานการทำงานร่วมกันกับแผนที่นำทาง Google Map จึงช่วยให้บริษัทฯ สามารถรู้พิกัดจากการรับแจ้งเหตุโดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังช่วยบริหารจัดการการมอบหมายงานและบ่งบอกสถานะการทำงานของพนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุ จึงมั่นใจได้ว่าผู้เอาประกันภัยจะได้รับการบริการได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ผู้เอาประกันภัยสามารถแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลูกค้าสัมพันธ์ 1557 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา: วิริยะประกันภัย