นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังคงเดินนโยบายในการขยายฐานลูกค้าบุคคลและสถาบันให้มากขึ้น รวมถึงเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ ๆ ที่หลากหลายและซับซ้อนทั้งไทยและต่างประเทศ ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ทั่วโลกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่หลากหลายและสอดคล้องกับทิศทางสภาวะเศรษฐกิจการลงทุน ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ที่แตกต่างกันไป โดยปัจจุบันแนวโน้มกลุ่มลูกค้าบุคคลจะมีความสนใจในการลงทุนต่างประเทศ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น นอกเหนือจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ และตราสารทุนภายในประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากเนื่องจากสภาวะตลาดที่มีความผันผวนตั้งแต่เกิดการระบาดของ COVID-19 รวมถึงอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ค่อนข้างต่ำ ทำให้ลูกค้าบุคคลหรือสถาบันหันมาให้ความความสนใจในสินทรัพย์อื่นที่ได้ผลตอบแทนสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังรวมถึงลูกค้าสถาบันจากเดิมที่เคยบริหารเงินเองก็หันมาลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น เพื่อต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยบริหารเงินให้โดยเฉพาะในด้านการวิเคราะห์เครดิต
ปัจจุบันบริษัทฯ สามารถเข้าถึงการลงทุนที่หลากหลายครบวงจร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศที่เป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนทั่วไปเข้าถึงยาก โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนผ่านทางคู่ค้าต่างประเทศ หรือบริษัทจัดการระดับโลกที่เป็นพันธมิตร ซึ่งทีมผู้จัดการกองทุนจะช่วยเฟ้นหากองทุนต่างประเทศที่น่าสนใจให้ลูกค้าสามารถลงทุนได้ และสามารถบริหารความเสี่ยงได้โดยเลือกป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการออกแบบพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องและเหมาะสมกับความเสี่ยงและข้อจำกัดในการลงทุนของผู้ลงทุนที่หลากหลายขึ้น โดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมรับได้ทั้งกลุ่ม Conservative Investor ที่สามารถรับความเสี่ยงได้ต่ำ หลีกเลี่ยงความผันผวน เน้นการรักษาเงินลงทุนให้ปลอดภัย กลุ่ม Moderate Investor รับความเสี่ยงได้ระดับปานกลาง เลือกการลงทุนที่มีความปลอดภัย แต่สามารถเปิดโอกาสรับความเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น และกลุ่ม Aggressive Investor รับความเสี่ยงได้สูง โดยคาดหวังที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงมากขึ้น
ทั้งนี้ บลจ.ไทยพาณิชย์ ประสบความสำเร็จจากการได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าสถาบัน และกลุ่มลูกค้าบุคคลที่มีเงินลงทุนสูง (High Net Worth) ในการให้บริษัทฯเข้ามาช่วยบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนของสถาบันนั้น มีทั้งหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา สหกรณ์ ตลอดจนบริษัทเอกชนและบริษัทประกัน เป็นต้น ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารงานรวม 538,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32,072 ล้านบาทจากสิ้นปี 2563 โดยครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 26.02% (ข้อมูลสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564)
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6
ที่มา: บลจ.ไทยพาณิชย์