ดีเอชแอลปล่อยแบรนด์แคมเปญฉลองการเปิดตัวภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ ภาคใหม่ No Time To Die

ศุกร์ ๐๘ ตุลาคม ๒๐๒๑ ๐๙:๐๒
แคมเปญแสดงถึงประสิทธิภาพและบริการที่น่าเชื่อถือของดีเอชแอลหัวใจสำคัญของแคมเปญนี้คือภาพยนตร์โฆษณาที่เผยแพร่ทั่วโลก ซึ่งเน้นความตื่นเต้นเร้าใจมากกว่าเดิมของแบรนด์ดีเอชแอลดีเอชแอลเป็นลอจิสติกส์พาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของภาพยนตร์ No Time To Dieดีเอชแอลเปิดตัวแคมเปญใหม่เพื่อฉลองความร่วมมือที่มีมายาวนานกับภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และโชว์จุดเด่นด้านบริการขนส่งที่เป็นเลิศ หัวใจสำคัญของแคมเปญนี้คือภาพยนตร์โฆษณาที่ผลิตขึ้นเพื่อเป็นการยกย่องแฟรนไชส์ภาพยนตร์ซึ่งเป็นที่จดจำของคนทั่วโลก โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ที่ดีเอชแอลได้ให้บริการขนส่งและโซลูชั่นด้านลอจิสติกส์ต่างๆ สำหรับภาพยนตร์เจมส์ บอนด์

"ดีเอชแอลภูมิใจที่ได้มอบการสนับสนุนด้านลอจิสติกส์สำหรับภาพยนตร์เจมส์ บอนด์มาถึง 5 ภาคด้วยกัน และสำหรับเบื้องหลังความสำเร็จของภาพยนตร์โฆษณาสุดยิ่งใหญ่ของดีเอชแอลนี้ เราได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทีมงานมืออาชีพระดับโลกของภาพยนตร์ No Time To Die เพื่อให้เจมส์ บอนด์มีชีวิตโลดแล่นบนโฆษณาของดีเอชแอล ในขณะเดียวกันเราก็ต้องแสดงให้เห็นความสามารถทางการแข่งขันของเราในแบบที่สนุกสนานและดึงดูดใจผู้ชมด้วย เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้แสดงให้โลกเห็นว่าดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสสามารถนำประสบการณ์และความรู้ความชำนาญในแต่ละประเทศเพื่อรับมือกับความท้าทายในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างไร และเรายังคงเป็นลอจิสติกส์พาร์ทเนอร์ด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศที่ผู้ใช้บริการไว้วางใจได้ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือมีความซับซ้อนเพียงใดก็ตาม" คุณเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยและหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าว

เพื่อให้สร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาที่เร้าใจและตื่นเต้นในระดับเดียวกับฉากขับรถไล่ล่าในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ การคัดเลือกทีมงานที่จะมาสร้างสรรค์ ดัดแปลง และผลิตภาพยนตร์จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โฆษณาเรื่องนี้มีรถแอสตัน มาร์ติน DB5 เป็นจุดเด่น ซึ่งขับโดย เบน คอลลิน สตันท์ของตัวละครบอนด์ ผู้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับ พีท ไวท์ ผู้ช่วยประสานงานด้านสตันท์ของภาพยนตร์ No Time To Die ภาพยนตร์โฆษณาของดีเอชแอลเรื่องนี้ถ่ายทำโดย อดัม เบิร์ก ไดเร็คเตอร์มือรางวัลแห่งสตูดิโอ Smuggler และยังได้ ไลนัส แซนด์เกรน แห่ง No Time To Die มาเป็นผู้กำกับภาพอีกด้วย แนวคิดของโฆษณามาจากการพัฒนาโดย 180 Amsterdam เอเจนซีหลักของดีเอชแอล

ภายใต้แคมเปญนี้ ดีเอชแอลได้เล่าเรื่องที่เพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจให้กับแบรนด์ โดยโฆษณาเปิดฉากขึ้นในเซี่ยงไฮ้ เมื่อเจ้าหน้าที่คูเรียร์รายหนึ่งของดีเอชแอลต้องออกไปส่งพัสดุสำคัญให้ เจมส์ บอนด์ แต่พอไปถึงจุดนัดพบปรากฎว่าการส่งมอบของมีอันต้องสะดุด เป็นสาเหตุให้มีการขับรถไล่ล่ากันตามมา และในขณะที่ 007 กำลังถูกเหล่าร้ายไล่ล่าไปตามท้องถนนนั้น เจ้าหน้าที่คูเรียร์ของดีเอชแอลต้องหลบหลีกความชุลมุนวุ่นวาย เพื่อไปส่งของให้ถึงจุดหมายใหม่ตามการเปลี่ยนแปลงผู้รับ โดยขนส่งอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

นอกจากภาพยนตร์โฆษณาที่ออกอากาศทางโทรทัศน์แล้ว แคมเปญนี้ยังออกอากาศทั่วโลกผ่านช่องทางดิจิทัล ทั้งในรูปแบบของแบนเนอร์โฆษณา วิดีโอ และสิ่งพิมพ์ ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น เบื้องหลังการถ่ายทำ และภาพยนตร์โฆษณาฉบับเต็ม สามารถดูได้จากเว็บไซต์ NoTimeToDie.dhl

No Time To Die กำกับโดย แครี โจจิ ฟุกุนากะ และนำแสดงโดย แดเนียล เครก ผู้กลับมาเล่นภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ ของเอียน เฟลมมิ่ง เป็นครั้งที่ 5 และเป็นครั้งสุดท้าย ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ประเทศไทยวันที่ 7 ตุลาคม 2564 โดย Universal Pictures International เป็นผู้จัดจำหน่าย

7 เรื่องไม่ลับ เบื้องหลังความร่วมมือระหว่าง No Time To Die กับดีเอชแอล

  1. นับตั้งแต่ Casino Royale (2006) ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ที่ดีเอชแอลได้ให้บริการด้านการขนส่งและโซลูชั่นด้านลอจิสติกส์ต่างๆ สำหรับการถ่ายทำและการผลิตภาพยนตร์ 007
  2. ในการทำงานด้านการขนส่งให้กับภาพยนตร์ No Time To Die ที่แฟนๆ ตั้งตารอนี้ ดีเอชแอลได้ขนส่งอุปกรณ์การถ่ายทำและอุปกรณ์สตันท์ไปยังโลเคชั่นต่างๆ ทั้งในนอร์เวย์ จาไมก้า อิตาลี และโดยรอบประเทศอังกฤษ ของที่ดีเอชแอลช่วยขนส่งมีตั้งแต่รถแอสตัน มาร์ติน ในตำนาน ไปจนถึงอุปกรณ์ประกอบฉากสำคัญๆ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านลอจิสติกส์ ดีเอชแอลปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องในทุกขั้นตอนเพื่อขนส่งสิ่งของต่างๆ ให้ถึงมือผู้รับตรงเวลาเสมอ
  3. รถแอสตัน มาร์ติน DB5 จำลองจำนวน 8 คัน ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการถ่ายทำ No Time To Die!
  4. การถ่ายทำภาพยนตร์ No Time To Die เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น ตลอด 604 วันของการถ่ายทำ ดีเอชแอลขนส่งตั้งแต่คอสตูมชุดแรก ไปจนถึงฟุตเทจภาพยนตร์ในขั้นสุดท้าย
  5. ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสได้ทำการบันทึกเอกสารการดำเนินพิธีศุลากรรวมถึง 948 รายการ สำหรับการขนส่งข้ามพรมแดนให้กับภาพยนตร์ No Time To Die
  6. ดีเอชแอลขนส่งเสื้อผ้าและคอสตูมรวมกว่า 11,039 กิโลกรัมทั่วโลกเพื่อภาพยนตร์เจมส์บอนด์ภาคที่ 25 เราได้จัดส่งบิกินี่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภาค DR.NO ไปยังวิลล่า GoldenEye ของเอียน เฟลมมิ่ง ในจาไมก้า เพื่อเปิดตัวการเริ่มต้นถ่ายทำภาพยนตร์
  7. แม้ว่าฉากของเรื่องจะอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน แต่โฆษณาของดีเอชแอลเรื่องนี้ถ่ายทำที่ใจกลางกรุงเทพฯ ประเทศไทย! ไปดูโฆษณาอีกครั้งกันได้ที่ NoTimeToDie.dhl หรือชมผ่านโซเชียลมีเดียของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ขนส่งด่วนระหว่างประเทศ

ที่มา: พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ