นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และผู้นำตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยว เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทอุตสาหกรรมการเกษตร และอาหาร ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์หลักในการส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารสู่ผู้บริโภคทั่วโลก ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการกู้วิกฤตโลกร้อนในครั้งนี้ พร้อมขับเคลื่อนสังคมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคท้องถิ่น รวมถึงเกษตรกรในชุมชน ในการลดก๊าซเรือนกระจก มุ่งมั่นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050-2070 พร้อมกำหนดแนวทางการบริหารจัดการ ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะยาว พร้อมแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างประโยชน์ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ควบคู่ไปกับการกู้วิกฤตโลกร้อน
"การประกาศเจตนารมณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สอดคล้องกับนโยบายหลักของบริษัทฯ ที่เริ่มจากการผลักดันการเกษตรแบบยั่งยืนตั้งแต่การเพาะปลูก ร่วมกับส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นวัดผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงข้อมูลและหาวิธีการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ยังคงมีอยู่ตลอดห่วงโซ่คุณค่า นำไปสู่การกำหนดแนวทางการบริหารจัดการ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มแหล่งกักเก็บคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน"
"ปัจจุบัน ไทยวา มีการดำเนินกลยุทธ์จากการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ของพลังงานทดแทน มีการนำเอาของเหลือจากกระบวนการผลิต เช่น กากมันและน้ำเสียมาหมักเป็นไบโอแก๊สเพื่อผลิตเป็นพลังงานสำหรับใช้ในกระบวนการผลิต และการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาของโรงงาน และโครงการผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพ หรือ "ไบโอพลาสติก" ซึ่งเป็นผลผลิตต่อยอดจากจากแป้งมันสำปะหลังของบริษัท และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย เช่น ภาชนะ ถุงพลาสติก และของใช้ในการเกษตรทั่วไป ซึ่งสามารถช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากขยะพลาสติกที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้กระบวนผลิตของพลาสติกชีวภาพจากมันสำปะหลัง ยังลดการปลดปล่อยก๊าชเรือนกระจกเมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตพลาสติกจากปิโตรเลียมถึง 5 เท่า ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้ในอนาคต อีกด้วย" นาย โฮ เรน ฮวา กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: ไทยวา