นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมประเทศไทย กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีพันธกิจหลัก ในการส่งเสริมและพัฒนาการประกอบอุตสาหกรรม ส่งเสริม สนับสนุนการศึกษา วิจัย อบรม เผยแพร่วิชาการและเทคโนโลยีเกี่ยวกับอุตสาหกรรม และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการ เพื่อช่วยแก้ปัญหาและอุปสรรคของอุตสาหกรรมในฐานะ "เพื่อนร่วมเศรษฐกิจมิตรร่วมสร้าง" สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจึงพยายามหาแนวทางและพันธมิตรในการพัฒนาความรู้ และทักษะที่จำเป็นให้กับสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมฯ เพื่อสร้างสมรรถนะการแข่งขันในตลาดโลก และสามารถนำพาอุตสาหกรรมไทยก้าวไกลสู่สากลอย่างเต็มภาคภูมิ จึงเล็งเห็นถึงโอกาสในการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยเปิดชั้นนำของโลกผู้ริเริ่มด้านการเรียนการสอนทางไกลเพื่อส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในการพัฒนาหลักสูตรเพื่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรม โดยมีวัตถุประสงค์หลักที่มุ่งเน้นพัฒนาสมาชิกให้มีความรู้ สร้างความเข้มแข็งและความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ประกอบการรายย่อย และ/หรือผู้ประกอบการใหม่ และสร้างมาตรฐานสมรรถนะคุณวุฒิวิชาชีพผู้ประกอบการอุตสาหกรรม
รองศาสตราจารย์ ดร. มานิตย์ จุมปา กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ผู้นำและผู้ริเริ่มการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษาทางไกล เพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดชีวิต นอกเหนือจากหลักสูตรการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก แล้วยังมีหลักสูตรในระดับต่ำกว่าปริญญา (Non-degree Programs) ระบบโมดูลการเรียน (Modular System) ที่มุ่งเน้นการพัฒนาสมรรถนะในการทำงานควบคู่กับคุณภาพชีวิตด้านต่างๆ เพื่อเสริมสร้างทักษะใหม่ (Re-Skill) และยกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้น (Up-Skill) ตอบสนองการเรียนรู้ตามความต้องการของแต่ละบุคคลและหน่วยงาน ตามคำขวัญว่า มสธ. ที่ไหน เวลาใด ใครก็เรียนได้
สำหรับการจัดหลักสูตรเพื่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เป็นการจัดการเรียนการสอนให้กับสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้มีความรู้ ทักษะและเจตคติที่จำเป็นเพื่อสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน โดยหลักสูตรมีความสอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพตามกลุ่มอุตสาหกรรม ที่สำคัญสมาชิกสภาอุตสาหกรรมที่เข้าเรียนผ่านโครงการความร่วมมือนี้จะสามารถเก็บสะสมหน่วยกิตสำหรับการศึกษาต่อในหลักสูตรการศึกษาของ มสธ. ได้อีกด้วย นับเป็นมิติใหม่การพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรมสำหรับยุค Next Normal เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสร้างโอกาสความสำเร็จที่สูงยิ่งขึ้น
ที่มา: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย