แอนเดรียนโต้ จายาเปอร์นา ประธาน บริษัท เฮงเค็ล ประเทศไทย กล่าวว่า "โลกาภิวัตน์และการแพร่ระบาดใหญ่ที่กำลังดำเนินอยู่ได้เร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่การทำงานรูปแบบใหม่ที่มีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้นทั้งแบบดิจิทัล และการทำงานร่วมกัน ด้วย Smart Workนี้ เรากำลังเริ่มต้นการเดินทางเพื่อจัดหาไม่เพียงแต่สถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับพนักงาน แต่ยังเพิ่มความยืดหยุ่นและเสริมพลังให้พนักงานบรรลุศักยภาพสูงสุดอีกด้วย"
โดยพื้นฐานแล้ว Smart Work นำเสนอแนวทางแบบองค์รวมเพื่อสนับสนุนความยืดหยุ่นในชีวิตการทำงานที่มากขึ้น ซึ่งครอบคลุมไม่เพียงเฉพาะในออฟฟิศและการทำงานนอกสถานที่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุขภาพอนามัย ความยั่งยืน การเดินทาง และการเปลี่ยนแปลงแรงงานสู่ระบบดิจิทัล
ที่เฮงเค็ล แนวคิด Smart Work มีพื้นฐานมาจากคำมั่นสัญญา 4 ประการ:
- Work ? Office: ขอบคุณสภาพแวดล้อมการทำงานแบบดิจิทัลที่ครอบคลุมของเฮงเค็ล การทำงานมิได้หมายถึงจำเป็นต้องเข้ามาในสำนักงานเท่านั้น ด้วยพนักงานสามารถทำงานนอกสถานที่ได้ตามความเหมาะสมเพื่อบูรณาการงานและชีวิตได้อย่างลงตัวยิ่งขึ้น สิ่งนี้ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจและความยืดหยุ่น
- Office ? Desk: เกี่ยวข้องกับการออกแบบและยกระดับสภาพแวดล้อมในสำนักงานเพื่อสนับสนุนประสิทธิภาพในการทำงาน ตลอดจนส่งเสริมการทำงานร่วมกัน ความคิดสร้างสรรค์ และชุมชน นอกจากนี้ยังรวมถึงการดำเนินโครงการริเริ่มที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีทางร่างกายและจิตใจของพนักงาน เราตั้งเป้าที่จะทำให้สถานที่ทำงานของเราพร้อมสำหรับอนาคต เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรของเรา
- Presence ? Output: ผู้จัดการควรสนับสนุนการจัดการทำงานแบบยืดหยุ่นและผลักดันการทำงานของทีมโดยพิจารณาจากผลลัพธ์และความคาดหวัง แทนชั่วโมงการทำงาน
- Meeting ? Traveling: แม้ว่าการเดินทางจะยังคงเป็นสิ่งสำคัญต่อการพบกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ แต่มีข้อดีหลายประการสำหรับการพบกันแบบเสมือนจริง เช่น ทำให้ลดเวลาเดินทางและการปล่อยมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
แม้กระทั่งก่อนเกิดการแพร่ระบาด เฮงเค็ลได้ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมเพื่อให้บริษัทฯ เติบโต รวมทั้งบุคลากรทุกคนได้มีการเติบโต ในขณะเดียวกันก็สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง กรอบงาน "Smart Work" คือเสาหลักที่สำคัญมากในการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับรูปแบบการทำงานในอนาคตข้างหน้าของพนักงานทุกคน
ที่มา: 124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง