กรมส่งเสริมสหกรณ์หนุนสหกรณ์การเกษตรร่วมโครงการลดราคาปุ๋ยของกระทรวงพาณิชย์ สำรวจความต้องการใช้ปุ๋ยเบื้องต้น 32,214 ตัน หวังช่วยสมาชิกลดต้นทุนการผลิตในการใช้ปุ๋ย ถูกกว่าท้องตลาดกระสอบละ 20 - 30 บาท

พุธ ๒๐ ตุลาคม ๒๐๒๑ ๑๖:๐๖
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาปุ๋ยมีปรับตัวสูงขึ้นและมีแนวโน้มถึงต้นปี 2565 โดยมีผลมาจากปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ความต้องการปุ๋ยเคมีสำหรับใช้ในการเพาะปลูกของเกษตรกรในต่างประเทศ เช่น อินเดีย อัตราค่าระวางการขนส่งสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทยต้องพึ่งพาการนำเข้าปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศ สูงถึง 97% การที่ราคาปุ๋ยเคมีปรับตัวสูงขึ้น จึงส่งผลกระทบโดยตรงกับต้นทุนในการทำการเกษตร และการเพาะปลูกพืชของเกษตรกรไทย จากปัญหาดังกล่าวกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในจึงได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย สมาคม คนไทยธุรกิจเกษตร ดำเนินโครงการ "พาณิชย์ลดราคา! ปุ๋ยช่วยเกษตรกร" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจำหน่ายปุ๋ยเคมีราคาถูกให้เกษตรกรผ่านสถาบันเกษตรกร เช่น สหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกร

มีปริมาณปุ๋ยเคมีที่เข้าร่วมโครงการ 208,411 ตัน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ประชาสัมพันธ์โครงการให้แก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร จนถึงในขณะนี้มีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว 186 แห่ง และได้รับการจัดสรรปุ๋ยเคมีจากบริษัท ที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 29,807 ตัน และได้มีการขยายระยะเวลาโครงการต่ออีก 2 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดโครงการในเดือนตุลาคม 2564 นี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือสมาชิกของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้ได้ซื้อปุ๋ยเคมีในราคาถูก ในขณะนี้มีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร จำนวน 112 แห่งใน 44 จังหวัด ต้องการปุ๋ยเคมีสำหรับบริการแก่สมาชิกปริมาณ 32,214 ตัน โดยปุ๋ยเคมีที่สมาชิกต้องการมาก ได้แก่ ยูเรีย (46-0-0) จำนวน 7,500 ตัน ปุ๋ยสูตร 16-20-0 จำนวน 6,000 ตัน และปุ๋ยสูตร 15-15-15 จำนวน 4,000 ตัน ซึ่งสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ได้สั่งซื้อปุ๋ยเคมีกับโครงการดังกล่าว จะสามารถจำหน่ายปุ๋ยเคมีให้แก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในราคาที่ถูกกว่าราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมีตามปกติ กระสอบละ 20 - 30 บาท คาดว่า สมาชิกสหกรณ์สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมีจากการเข้าร่วมโครงการนี้ประมาณ 10 - 14 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าว นับว่าเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกในการลดต้นทุนการผลิตจากค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยสำหรับการเพาะปลูก โดยมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเป็นองค์กรในการให้บริการจัดหาปุ๋ยเคมีให้แก่สมาชิก เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หากเกษตรกรยังมีความต้องการในการใช้ปุ๋ยเคมีที่ราคาถูกกว่าท้องตลาด สามารถสั่งซื้อปุ๋ยผ่านสหกรณ์การเกษตรกลุ่มเกษตรกรที่ตนเองสังกัดได้ จนถึงวันสิ้นสุดโครงการ 31 ตุลาคม 2564 นี้

ที่มา: กรมส่งเสริมสหกรณ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๐๐ เครือเฮอริเทจ คว้ารางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับมหาวิทยาลัยและบุคลากรดีเด่นประจำปี 2567 จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
๑๑:๒๘ สคร. 12 สงขลา แนะ ยึดหลัก สุก ร้อน สะอาด ป้องกัน เชื้อ โนโรไวรัส
๑๑:๓๔ ส่องหาปูนิ่ม ด้วย AI นวัตกรรมเพื่อผู้ผลิตปูนิ่ม
๑๑:๑๖ กรุงไทย-สยามโกลบอลเฮ้าส์ ยกระดับการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเชื่อมโยง ESG และเงินฝากสีเขียว ตอบโจทย์องค์กรยั่งยืน
๑๑:๒๐ ธนาคารกสิกรไทย แจ้งผลประกอบการ ปี 2567 กำไร 48,598 ล้านบาท
๑๑:๕๙ ยอดขายทะลุเป้าสูงสุด 7.4 เท่า! สำหรับยอดขายวันแรกของ HONOR X9c Series พร้อมขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจ
๑๑:๕๙ 22 ม.ค.นี้ พบกับมรดกทางวัฒนธรรมไทยที่ไม่ควรพลาด PARADISE PARK KHON THE THEATER กับ การแสดงเบิกโรงเทวนิยาย ชุด ท้าวเวสสุวัณ @พาราไดซ์
๑๑:๐๐ เสาร์ 25 ม.ค. 2568 ปักหมุดอิ่มอร่อย มื้อนี้ K เลย ลดทั้งบิล 50%* กับบัตรเครดิตวีซ่ากสิกรไทย 27 ร้านดังที่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์
๑๑:๐๐ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดงบกว่า 15.5 ล้านบาท ฟื้นฟูหลังน้ำลดผู้ประสบอุทกภัย แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค มอบเงินช่วยเหลือกรณีบ้านพังทั้งหลัง และช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิต 8
๑๐:๒๘ มทร.ธัญบุรี กางแผนรับนักศึกษาใหม่ ปี 68 กว่า 6 พันคน