รมช.ประภัตร นำทีมกระทรวงเกษตรฯ ตรวจเยี่ยมท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน ผลักดันองค์การสะพานปลา หารือการท่าเรือแห่งประเทศไทย ปักหมุดทำท่าบก หวังนำร่องเป็นศูนย์กระจายสินค้าสัตว์น้ำ - สินค้าเกษตรของประเทศ

พฤหัส ๒๘ ตุลาคม ๒๐๒๑ ๑๖:๐๙
รมช.ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย พร้อมร่วมหารือกับองค์การสะพานปลา และการท่าเรือแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางการพัฒนา และความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าสัตว์น้ำ และสินค้าทางการการเกษตร (ท่าบก) โดยมีนายปรีดา ยังสุขสถาพร ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา เรือโท ดอกเตอร์ ชำนาญ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

"ภายใต้การดูแลภาคเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีสินค้าเกษตรทุกรูปแบบเป็นจำนวนมาก แต่ยังมีตลาดอยู่น้อย ในฐานะที่ตนกำกับดูแลองค์การสะพานปลาจึงได้มอบนโยบายให้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการหาตลาดให้กับเกษตรกรที่ประกอบอาชีพทำประมงก่อน โดยครั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ จะส่งเสริมสินค้าทุกประเภท ไม่ใช่เฉพาะสัตว์น้ำ ที่เราสามารถผลิตได้ในประเทศ เพื่อจะส่งออกโดยการขนส่งทางเรือ โดยใช้กลยุทธ์ เมื่อเรือสินค้านำสินค้าเข้ามาส่ง เราจะไม่ให้กลับไปเป็นเรือเปล่า แต่ต้องให้นำสินค้าของประเทศไทยกลับไปด้วย โดยตอนนี้องค์การสะพานปลากำลังหารือกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยจะเริ่มนำร่องสินค้าสัตว์น้ำเป็นประเภทแรกซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ จะมีการสร้างคลังสินค้าบริเวณใกล้ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนเป็นที่แรก มีการสร้างห้องเย็นเพื่อเก็บสินค้า หากมีความต้องการสินค้าก็จะทำให้สามารถขนส่งขึ้นเรือได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว และหากประสบผลสำเร็จก็จะเริ่มขยายไปยังสินค้าเกษตรอื่นๆ และท่าเรืออื่นๆ ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยต่อไป " รมช.ประภัตร กล่าว

ทั้งนี้ ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน อยู่ในความรับผิดชอบของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นประตูระหว่างประเทศไทยกับประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง ตอนบน ส่งเสริมการขนส่ง การค้า ตามข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ เพื่อเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำบ้านช้าง - แม่น้ำโขง โดยมีสินค้าผ่านท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนกว่า 6 ล้านตันต่อปี มีบริการที่ทันสมัยตามมาตรฐานสากล สำหรับท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน มีท่าเทียบเรือ 4 ท่า ประกอบด้วย 1.ท่าเรือแนวลาดทิศใต้ 2.ท่าเรือแนวดิ่ง 3.ท่าเรือแนวบาดทิศเหนือ 4.ท่าเรือขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง สามารถรองรับเรือสินค้ามีขนาดบรรทุกได้ถึง 400 ตัน กินน้ำลึกถึง 2 เมตร มีสถิติเรือเข้า - ออก ปี 2564 กว่า 103,971 ลำ โดยมีสินค้านำเข้าที่โดดเด่น คือ ข้าวโพด บุหรี่ เปลือกไม้ สินค้าส่งออก ที่โดดเด่นคือ ชิ้นส่วนไก่แช่แข็ง เนื้อกระบือแช่แข็ง น้ำตาลทราย เป็นต้น

ที่มา: สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ ม.ค. คณะอุตสาหกรรมเกษตรดิจิทัล มจพ. วิทยาเขตปราจีนบุรี ลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับ บริษัท ครัวการบินกรุงเทพ
๓๐ ม.ค. บางจากฯ - TOA ลงนาม MOU ความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม
๓๐ ม.ค. กลุ่ม STI โดย เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่งฯ คว้างานใหญ่ในกัมพูชา โครงการปรับปรุงถนนหมายเลข 67 (NR67) ช่วงเสียมราฐ-อันลองเวง-จวม/สะงา ราชอาณาจักรกัมพูชา มูลค่าโครงการรวม 983
๓๐ ม.ค. SAWAD สุดปลื้ม! รับข่าวดีต้นปี ฟิทช์ให้อันดับเครดิต 'A-(tha)' สะท้อนความแข็งแกร่งทั้งด้านเงินทุนและศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืน
๓๐ ม.ค. เฮง เฮง เฮง รับปีงู ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๓๐ ม.ค. จัดประชุมสัมมนาอย่างเหนือระดับ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ กับโรงแรม 18 แห่งทั่วไทยในเครือเคป แอนด์ แคนทารี
๓๐ ม.ค. สำนักงานอธิการบดี ม.ราชภัฏรำไพพรรณี คว้ารางวัลสำนักงานสีเขียวดีเยี่ยม 3 ปีซ้อน
๓๐ ม.ค. 'ปลัดสงค์'เข้ม!! เทรนบุคลากร Gen ใหม่ สร้างกระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ
๓๐ ม.ค. LINE BK ปักธงปี 2568 พร้อมก้าวสู่อนาคตด้วยการเป็น Social Banking ที่ตอบโจทย์ยุค AI และ Virtual Bank
๓๐ ม.ค. ไบเออร์ไทยรับรางวัล 2025 Thailand Best Employer Brand Award