คาดเฟดประกาศแผนการลดวงเงิน QE อย่างเป็นทางการ ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 2-3 พ.ย. นี้

จันทร์ ๐๑ พฤศจิกายน ๒๐๒๑ ๐๙:๑๒
การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 2-3 พ.ย. ที่จะถึงนี้ จะเป็นรอบการประชุมที่สำคัญ เนื่องจากเฟดน่าจะมีการประกาศการลดวงเงิน QE อย่างเป็นทางการ ขณะที่เฟดน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.0-0.25% โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีมุมมองดังต่อไปนี้
  • เฟดน่าจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินตามแผนที่ได้ส่งสัญญาณไว้ก่อนหน้าว่าเฟดจะเริ่มลดวงเงิน QE ภายในสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะสิ้นสุดการลดวงเงิน QE ภายในกลางปี 2565 ซึ่งแปลว่าเฟดอาจทยอยลดวงเงิน QE เดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยแบ่งเป็นการลดการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเดือนละ 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากวงเงินปัจจุบันที่ 8.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน และการลดการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (mortgage-backed securities) เดือนละ 0.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากวงเงินปัจจุบันที่ 4.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน ซึ่งจะส่งผลให้วงเงิน QE ทั้งหมดที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือนในปัจจุบันหมดลงในช่วงกลางปีหน้าตามที่เฟดได้ส่งสัญญาณไว้
  • ความกังวลหลักของเฟดอยู่ที่ประเด็นด้านเงินเฟ้อที่เร่งสูงขึ้นอย่างมาก และอาจจะลากยาวกว่าที่เคยประเมิน อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนก.ย. ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นถึง 5.4% YoY สอดคล้องกับดัชนีราคาผู้ผลิตที่เร่งตัวสูงขึ้นอย่างมากที่ 8.6% YoY ตามปัจจัยด้านราคาพลังงานและปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานซึ่งมีแนวโน้มที่จะไม่คลี่คลายลงในระยะอันใกล้ ทั้งนี้ แม้ว่าการลดวงเงิน QE อาจจะไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาเงินเฟ้ออย่างตรงจุด เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อส่วนหนึ่งเกิดจากปัจจัยทางฝั่งอุปทานที่ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตนั้นสูงขึ้น อย่างไรก็ดี การถอนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายผ่านการลดวงเงิน QE จะช่วยลดอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ (inflation expectation) และแรงกดดันเงินเฟ้อจากฝั่งอุปสงค์ ซึ่งจะช่วยหยุดยั้งวงจรเงินเฟ้อได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ในระยะข้างหน้า ทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโมเมนตัมที่จะชะลอตัวลง ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนแรงงานรวมถึงความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังอยู่ในระดับสูง ในขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้ออาจจะลากยาวกว่าที่เคยประเมิน ส่งผลให้เฟดคงจะต้องชั่งน้ำหนักความเสี่ยงทางด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจและด้านเงินเฟ้อในการพิจารณาจังหวะที่เหมาะสมในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า โดยหากเฟดต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ควรนอกจากจะสร้างความผันผวนมากขึ้นในตลาดเงินตลาดทุนแล้ว ยังอาจยิ่งบั่นทอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในภาวะที่ยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่ได้หมดไป อีกทั้งยังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาขีดจำกัดในฝั่งอุปทานซึ่งเป็นปัจจัยผลักดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้น เนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นและส่งผลให้ผู้ผลิตอาจเพิ่มกำลังการผลิตต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
  • สำหรับผลกระทบในฝั่งตลาดเงินตลาดทุน เนื่องจากตลาดได้รับรู้แผนการลดวงเงิน QE ไปแล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้น การประกาศลดวงเงิน QE ในการประชุมที่จะถึงนี้น่าจะส่งผลต่อตลาดเงินตลาดทุนให้เกิดความผันผวนอย่างจำกัด อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามผลการประชุมว่าเฟดจะส่งสัญญาณอะไรเพิ่มเติม ซึ่งหากเฟดส่งสัญญาณมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญความเสี่ยงเชิงลบสูงขึ้น อาจส่งผลให้ตลาดคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยชะลอออกไปจากที่เคยคาด ซึ่งจะส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เผชิญแรงกดดันและมีแนวโน้มอ่อนค่าได้ ขณะที่หากเฟดส่งสัญญาณแสดงความกังวลต่อประเด็นเงินเฟ้อมากกว่าความเสี่ยงด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อาจส่งผลให้ตลาดคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่เคยคาด ซึ่งจะส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้ ซึ่งแนวโน้มค่าเงินบาทในระยะข้างหน้าคงผันผวนไปตามทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และปัจจัยในประเทศ ซึ่งคงต้องติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังจากมีการเปิดประเทศ ท่ามกลางความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดที่ยังอยู่ในระดับสูง

ที่มา: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๙ ดั๊บเบิ้ล เอ มอบอุปกรณ์เครื่องเขียน ช่วยเหลือฟื้นฟูโรงเรียนประสบภัยน้ำท่วม
๑๗:๑๐ เปิดประสบการณ์การทำความสะอาดห้องน้ำแบบ ไม่เปลืองแรงขัด โดยแบรนด์เป็ด และ คุณ คิมซอนโฮ
๑๗:๐๐ สพร. 42 หนองคาย มอบใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงาน สาขา ช่างบำรุงรักษารถยนต์ ระดับ 1
๑๗:๒๖ ไทเชฟแนะนำ ชุดรวมผงทำอาหาร อร่อยถูกใจ
๑๗:๕๐ เคทีซีร่วมกับบางกอกแอร์เวย์สและดุสิตธานี จัดกิจกรรม Exclusive Trip ขอบคุณสมาชิก บัตรเครดิต KTC-BANGKOK AIRWAYS
๑๗:๕๒ มวยไทยทีมภาคเหนือชนะทีมภาคกลาง 2:1 ในศึก Isuzu Thailand Championship 2024 แชมป์ 2 รุ่นเข้าชกเวทีมวยโลก THAI FIGHT
๑๗:๓๓ นิตยสารแพรวฉบับ ต.ค. 67 แจกของขวัญ Special Gifts 2024 ผลิตภัณฑ์แบรนด์ดัง บิวตี้ แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ มูลค่ารวมกว่า 2
๑๗:๐๐ A5 ชูแนวทาง ESG ได้รับ Transition Loan จากกรุงไทย เดินหน้าเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน
๑๗:๕๕ คงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ห้องอาหารอูโนมาสได้รับรางวัล Restaurantes de Espa?a Award 2024 โดยสถาบัน Spanish Institute for Foreign Trade
๑๗:๓๑ บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุนผสม ThaiESG เน้นหุ้นดัชนี SET ESG - ESG Bond เปิดขาย 24-29 ต.ค.นี้