มท.2 ติดตามความพร้อมเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำสงคราม จ.สกลนครพร้อมสั่งการกรมโยธาฯ ตรวจสอบตลิ่งทั่วประเทศ

จันทร์ ๐๑ พฤศจิกายน ๒๐๒๑ ๐๙:๕๓
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) และคณะ ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมของโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำสงคราม (ฝั่งด้านอำเภอคำตากล้า) บ้านห้วยดินดำ หมู่ที่ 10 ตำบลคำตากล้า อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร พร้อมสั่งการให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ตรวจสอบพื้นที่ตลิ่งริมแม่น้ำทั่วประเทศ เพื่อเตรียมแผนก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ลดปัญหาการพังทลายของตลิ่งริมแม่น้ำ สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยมีนายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยนายปรีชา มณีสร้อย นายอำเภอคำตากล้า หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชน ให้การต้อนรับ และนายยุทธศักดิ์ หล้าจางวาง วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสกลนคร บรรยายสรุปโครงการ

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เปิดเผยในการลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำสงคราม (ฝั่งด้านอำเภอคำตากล้า) บ้านห้วยดินดำ หมู่ที่ 10 ตำบลคำตากล้า อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร ว่าตนเองมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำ เนื่องจากปัญหาการกัดเซาะและพังทลายของตลิ่งริมแม่น้ำ ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนและส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม สภาพแวดล้อม จึงมีความจำเป็นที่จะต้องป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อลดความเสียหายและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยที่ผ่านมาได้สั่งการให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินการสำรวจตรวจสอบสภาพพื้นที่ตลิ่งริมแม่น้ำทั่วประเทศที่ถูกกัดเซาะ พังทลาย และอาจจะเป็นอันตรายต่อประชาชน เพื่อเป็นข้อมูลในการเตรียมความพร้อมและจัดทำแผนงาน/โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งเพื่อป้องกันปัญหาการพังทลายของตลิ่งริมแม่น้ำและลดการสูญเสียทรัพย์สินของประชาชน อาคารบ้านเรือน สถานที่ราชการ ศาสนสถาน และโบราณสถาน

ด้านนายยุทธศักดิ์ หล้าจางวาง วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำสงคราม (ฝั่งด้านอำเภอคำตากล้า) บ้านห้วยดินดำ หมู่ที่ 10 ตำบลคำตากล้า อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร มีความยาว 400 เมตร โดยมีรูปแบบก่อสร้างเป็นเขื่อนชนิดตอกเสาเข็ม สันเขื่อนเป็นพื้นทางเท้า ราวกันตก บ่อพักพร้อมท่อระบายน้ำ คันหินคอนกรีตเสริมเหล็ก และคันดินถมตลอดด้านหลังแนวสันเขื่อน หน้าเขื่อนทิ้งหินใหญ่เอียงตามแนวลาดตลิ่งจรดดินเดิม และงานก่อสร้างบันไดขึ้น - ลงหน้าเขื่อน จำนวน 2 แห่ง โดยจะเสนอโครงการเพื่อขอรับงบประมาณก่อสร้างในแผนงานก่อสร้างปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 หากโครงการฯ แล้วเสร็จจะสามารถเสริมสร้างความมั่นคงแข็งแรง ป้องกันและลดการพังทลายของพื้นที่ตลิ่งริมแม่น้ำในบริเวณดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อีกทั้งยังสามารถเสริมสร้างภูมิทัศน์ให้กับพื้นที่โดยรอบได้เป็นอย่างดี และประชาชนสามารถใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะได้อย่างคุ้มค่าอีกด้วย

ที่มา: กรมโยธาธิการและผังเมือง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ