นายวีระพงศ์ โก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า "ตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มต้นขึ้น เราได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และจำนวนผู้ซื้อเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าจากปี 2563 จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและหันมาช้อปออนไลน์มากขึ้น เราจึงต้องการช่วยเสริมโอกาสให้ผู้ขายสามารถเติบโตได้ในโลกดิจิทัล และด้วยความเชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซ รวมถึงเครื่องมือและโซลูชันทันสมัยต่างๆ ที่มีพร้อมบนแพลตฟอร์มลาซาด้า เราจึงมั่นใจว่าจะสามารถส่งเสริมผู้ขายของเราให้ประสบความสำเร็จได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของลาซาด้าในการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ขายไทย ไปพร้อมกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปสู่ดิจิทัล"
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเทรนด์การซื้อสินค้าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 จนถึงกันยายน 2564 โดยสินค้าอุปโภคบริโภคมีการเติบโตสูงสุด ตามมาด้วยสินค้าอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และรองลงมาคือสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพที่มีการเติบโตมากกว่า 12 เท่า ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้นและให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น ลาซาด้าจึงนำเสนอโปรแกรมช่วยเหลือมากมายให้กับผู้ขาย เพื่อเกาะกระแสเทรนด์นี้ ไปพร้อมกับการกระตุ้นยอดขายในเมกะแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ที่กำลังจะมาถึงอย่างแคมเปญ "Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale ถูกสุดในรอบปี วันนี้วันเดียว" และแคมเปญเลขคู่ (Double-digit) ส่งท้ายปีอย่าง 12.12
ผู้ขายสามารถเตรียมตัวเตรียมเปิดร้านปังและทำยอดขายเปรี้ยงไปกับลาซาด้าได้ด้วยโปรแกรมช่วยเหลือดังต่อไปนี้:
- ลาซาด้าโบนัส (Lazada Bonus) ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ลูกค้าประหยัดเงินมากยิ่งขึ้นเมื่อช้อปบนแพลตฟอร์มลาซาด้า โดยลาซาด้าสนับสนุนร้านค้าที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้ในการมอบส่วนลดแก่นักช้อปสูงถึง 50% โดยในช่วงแคมเปญ 9.9 ที่ผ่านมา มียอดการใช้ลาซาด้าโบนัสสูงถึง 150 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวนผู้ใช้งานกว่า 11 ล้านคน
- โปรแกรมจัดส่งฟรีพิเศษ (Free Shipping Max) หลังจากเริ่มโปรแกรมนี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผู้ขายที่เข้าร่วมโปรแกรมทำยอดขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 40% ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษของโปรแกรมนี้ที่มอบส่วนลดค่าขนส่งให้กับลูกค้า
- โปรแกรม ช้อป 9 บาททุกวัน (Shop 9 THB every day) ดีลสุดพิเศษที่นำเสนอสินค้าราคาดีเพื่อดึงดูดกลุ่มนักช้อปผู้แสวงหาสินค้าราคาย่อมเยา และยังเป็นอีกช่องทางที่ช่วยโปรโมตสินค้าให้แก่ร้านค้าใหม่ โดยร้านค้าที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาสามารถสร้างการเติบโตได้เฉลี่ยเกือบ 6 เท่า
- เงินคืนทุกวัน (Daily Cashback) โปรแกรมล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งช่วยเพิ่มการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ลาซาด้ายังได้เปิดตัวโปรแกรมผู้ขายใหม่ โดยลาซาด้ามีผู้ขายที่สามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอเพิ่มขึ้นกว่า 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับเดือนกันยายนปีที่แล้ว
และเพื่อสนับสนุนร้านค้าใหม่ให้คว้าโอกาสในช่วงเวลาทองของการขายของออนไลน์ในมหกรรมช้อปครั้งยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีที่กำลังจะมาถึง ลาซาด้ายังได้เตรียมสิทธิประโยชน์ต่างๆ ถึง 9 รายการให้ผู้ขาย ได้แก่
- บริการที่ปรึกษาส่วนตัว ให้เริ่มต้นเปิดร้านได้อย่างรวดเร็ว
- บัดดี้ร้านค้า โปรแกรมจับคู่ผู้ขายที่มีประสบการณ์กับผู้ขายหน้าใหม่เพื่อให้คำแนะนำซึ่งกันและกัน
- LazExpert กูรูจากโปรแกรม Lazada University ที่จะมาสอนเคล็ดลับเด็ดๆ ในการขาย
- แคมเปญพิเศษสำหรับผู้ขายใหม่เพื่อเพิ่มยอดการมองเห็น
- ฟรี! ค่าธรรมเนียมการขาย 0% เป็นระยะเวลา 1 เดือน
- ฟรี! ค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วมโปรแกรม Free Shipping Max เป็นเวลา 1 เดือน
- ฟรี! ค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วมโปรแกรม Daily Cash Back เป็นเวลา 1 เดือน
- คูปองพิเศษที่จะช่วยเพิ่มยอดขาย
- คูปองจัดส่งฟรีสำหรับร้านค้า
"ลาซาด้ามุ่งมั่นที่จะเป็นแพลตฟอร์มที่มีทุกสิ่งที่ใจค้นหาสำหรับนักช้อปไทย ด้วยเหตุนี้ทีมงานของเราทุกคนจึงทำงานอย่างเต็มที่ในทุกวันร่วมกับร้านค้าต่างๆ ในการหาสินค้าที่หลากหลายและมีคุณภาพมาอยู่บนแพลตฟอร์มของเรา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ไปพร้อมกับช่วยร้านค้าให้ประสบความสำเร็จ" นายวีระพงศ์ กล่าวสรุป
สามารถรับชมงานสัมมนา "Lazada Seller Opportunity Day 2021: เปิดร้านปัง ยอดขายเปรี้ยงไปกับลาซาด้า" ย้อนหลังได้ทางเฟซบุ๊กเพจ Happy Selling โดยคลิกที่ลิงก์ https://www.facebook.com/events/1050667188809280 หรือสแกนที่ QR Code ด้านล่าง
เกี่ยวกับลาซาด้า (Lazada)
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 ลาซาด้า กรุ๊ป เป็นผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ด้วยการนำเสนอธุรกิจการค้าและเทคโนโลยีอันทันสมัย พร้อมระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง และเครือข่ายการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ลาซาด้าได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทั่วภูมิภาค พร้อมความมุ่งมั่นที่จะให้บริการเหล่านักช้อปออนไลน์กว่า 300 ล้านคนภายในปี 2030 ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ลาซาด้าได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญของกลุ่มอาลีบาบาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับการขับเคลื่อนโดยโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีระดับโลก
ที่มา: ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์ ประเทศไทย