นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย เปิดเผยว่าตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ได้ออกร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์รถจักรยานยนต์รถแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลการเกษตรเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาและจะมีการกำหนดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์รถแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลการเกษตรซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียนั้น TK ได้ศึกษาผลกระทบต่าง ๆ และเห็นว่าหากเดินหน้าตามประกาศดังกล่าว ผู้บริโภคจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะการเข้าถึงแหล่งเงินเพื่อซื้อรถข้างต้นจะเป็นไปได้ยากขึ้น โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานต่อการดำรงชีวิตของประชากรส่วนใหญ่ในประเทศทั้งในเมืองและในพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากการเดินทางโดยระบบสาธารณะยังไม่เอื้ออำนวยอย่างทั่วถึง
จากร่างประกาศฯ ดังกล่าว ที่คาดว่าจะมีกำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 15% โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภคนั้น ไม่สอดคล้องกับต้นทุนการดำเนินงานของผู้ให้บริการ รวมทั้งไม่สอดคล้องกับค่าความเสี่ยงในการให้บริการเช่าซื้อกับลูกหนี้ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย รายได้ไม่สม่ำเสมอ และไม่มีหลักฐานทางการเงินประกอบการการกู้ยืมแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากต้องปฏิบัติจริงตามร่างประกาศฯ ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จะต้องปรับการดำเนินงานให้สามารถรองรับกับทั้งต้นทุนในการดำเนินงาน รวมทั้งความเสี่ยงในการให้บริการกับลูกหนี้ เช่น การปรับเงินดาวน์เพิ่มขึ้นจาก 50% ตามประเภทและรุ่นของรถ รวมทั้งตามโปรไฟล์ความเสี่ยงของผู้บริโภค การเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อหรือปรับเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นเป็นต้น
"ปัจจุบันเงินดาวน์เพียง 0 - 15%ของราคารถจักรยานยนต์ ลูกค้าก็ค่อนข้างลำบากในการหาเงินก้อนเพื่อมาดาวน์อยู่แล้ว ล่าสุดทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการสำรวจจากลุ่มตัวอย่างทั้งประเทศ 11,901 ครัวเรือน พบว่า 61.1% ของกลุ่มตัวอย่างมีปัญหาเงินช็อตหรือเงินออมใช้ในกรณีฉุกเฉินไม่ถึง 3 เดือน หรือไม่มีเงินออมเลย โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจในช่วง COVID อีกทั้งหนี้ครัวเรือนสูงถึง 90.5% สูงที่สุดในรอบ 18 ปี ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย และอันดับ 17 ของโลก หากผู้ประกอบการต้องปรับรูปแบบการให้บริการเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ในขณะที่ต้องทำตามกฎระเบียบที่ภาครัฐกำหนด แน่นอนว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่จะต้องกลับไปใช้บริการกู้หนี้นอกระบบ ซึ่งจะมีผลกระทบตามมาภายหลังมากมาย ไม่ว่าเรื่องหนี้ครัวเรือนที่สูงปัญหาการทวงหนี้ที่ไม่เป็นธรรม และไม่สามารถถูกควบคุมมาตรฐานตามกฎหมายได้ ปัญหาภาระหนี้สูงเกินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้บริโภค รวมถึงปัญหาสังคม อีกทั้งภาครัฐยังไม่สามารถเก็บภาษีจากธุรกิจเงินกู้นอกระบบได้" นายประพลกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อการเข้าถึงแหล่งเงินในการซื้อรถจักรยานยนต์เป็นเรื่องที่ยากขึ้น จะส่งผลโดยตรงให้จำนวนผู้เช่าชื้อรถจักรยานยนต์ลดลง และจะมีผลกระทบกับภาคอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ไทย ตั้งแต่โรงงานผลิตชิ้นส่วนและส่วนประกอบ โรงงานผลิตอะไหล่ โรงงานประกอบรถจักรยานยนต์ ผู้จัดจำหน่าย ดีลเลอร์ บริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน รวมไปถึงบริษัทขนส่งที่จะมีรายได้ลดลง เนื่องจากมีผู้บริโภคเพียง 20% ที่ซื้อรถจักรยานยนต์ด้วยเงินสด อีก 80% ต้องใช้บริการเช่าซื้อ ในส่วนภาครัฐจะเสียผลประโยชน์จากการจัดเก็บภาษี ทั้งเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีส่งออกภาษีมูลค่าเพิ่มภาษีสรรพสามิตและภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ควรเก็บได้จากธุรกิจเช่าซื้อ จากผู้ขายรถ ผู้ประกอบรถ ไปถึงจากผู้ผลิตชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์
"ในฐานะผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มานานเกือบ 5 ทศวรรษ TK ต้องการมีส่วนในการสนับสนุนให้คนไทยสามารถดำเนินชีวิตและประกอบกิจการต่าง ๆ ได้ผ่านการให้บริการทางการเงินต่าง ๆ และบริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ นอกจากนี้ TK ยังเชื่อมั่นในการให้กลไกตลาดควบคุมการบริการและอัตราดอกเบี้ยบริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ โดยปัจจุบันมีผู้ให้บริการสินเชื่อในตลาดกลุ่มนี้จำนวนมากทั้งผู้ให้บริการรายใหญ่และรายย่อย ครอบคลุมลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศ รวมทั้งมีการแข่งขันในการให้บริการและการเสนออัตราดอกเบี้ยที่เป็นไปตามกลไกตลาดแบบธรรมชาติ กล่าวคือ ผู้เสนอดอกเบี้ยต่ำหรือเงื่อนไขพิเศษก็จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากกว่า ทำให้มีการแข่งขันในการเสนอดอกเบี้ยที่มีการแข่งขันเสรีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ให้บริการสินเชื่อแก่ภาคประชาชนปีละ 60,000 - 100,000 ล้านบาท/ปี และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการช่วยเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนไม่ต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบ จึงอยากขอให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องการทำโครงการช่วยเหลือภาคประชาชน ให้พิจารณาผลกระทบแบบ 360 องศา รวมทั้งศึกษาส่งผลกระทบในระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากหลายโครงการที่ผ่านมา ช่วยเหลือประชาชนในระยะสั้น แต่กลับส่งผลลบในระยะยาว" นายประพล กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: แอบโซลูท พีอาร์