BGC เดินหน้าลดสัดส่วนลงทุนในธุรกิจพลังงานหลังมติจากผู้ถือหุ้น มุ่งเน้นธุรกิจหลักด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจร รับเป้าหมายการเติบโตระยะยาว

จันทร์ ๐๘ พฤศจิกายน ๒๐๒๑ ๑๓:๒๐
บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส หรือ BGC เดินหน้าปรับโครงสร้างการลงทุนในธุรกิจพลังงาน ลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือน้อยกว่า 20% หลังได้รับมติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 เป็นที่เรียบร้อย สอดคล้องกับทิศทางบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ หลังยกระดับธุรกิจสู่ Total Packaging Solutions ที่มีบรรจุภัณฑ์หลากหลายและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร รับเป้าหมายการเติบโตก้าวกระโดดในระยะยาว

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วรายใหญ่ในไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างการลงทุนในธุรกิจพลังงานเป็นรูปแบบ Passive Investment ที่มีสัดส่วนการลงทุนน้อยกว่าร้อยละ 20 มุ่งเน้นผลตอบแทนการลงทุนในรูปแบบเงินปันผล เพื่อกระจายความเสี่ยงและคงไว้ซึ่งเสถียรภาพรวมถึงความมั่นคงของรายได้ โดยจะจำหน่ายหุ้นทั้งหมด 100% ถืออยู่ในบริษัท โซล่า พาวเวอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (SPM) ให้แก่ บริษัท บีจี เอ็นเนอร์ยี่ โซลูชั่น จำกัด (BGE) เพื่อแลกกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BGE จำนวน 7.5 ล้านหุ้น หรือ 27.27% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ BGE และดำเนินการจำหน่ายหุ้น BGE จำนวน 2.02 ล้านหุ้น คิดเป็น 7.35% ให้แก่ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BG ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ได้รับเงินกว่า 600 ล้านบาท และคงเหลือสัดส่วนถือหุ้นในธุรกิจด้านพลังงานผ่าน BGE ที่ 19.93% รวมถึงอนุมัติให้ SPM ทำสัญญากู้ยืมเงินจาก BGE วงเงินไม่เกิน 270 ล้านบาท เพื่อให้ SPM นำไปชำระเงินกู้ยืมเดิมพร้อมดอกเบี้ย หลังจากได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 เป็นที่เรียบร้อย

การปรับลดสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจพลังงานครั้งนี้ เป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ ให้สอดคล้องกับแผนดำเนินงานในระยะยาว ที่มีนโยบายมุ่งเน้นขยายการลงทุนและสร้างการเติบโตจากธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร หลังจากบริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง เช่น บรรจุภัณฑ์พลาสติก ฝาพลาสติก ฉลากฟิล์ม หลอดพรีฟอร์ม กล่องกระดาษ เป็นต้น เพื่อยกระดับธุรกิจสู่ "Total Packaging Solutions" ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพและขีดความสามารถการแข่งขันที่ดียิ่งขึ้น โดยใช้จุดแข็งที่มีบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องหลากหลาย และสามารถนำเสนอบรรจุภัณฑ์แก่ลูกค้าอย่างครบวงจร

นอกจากนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้ว โดยลงทุนก่อสร้างเตาหลอมแก้วแห่งใหม่ที่โรงงานราชบุรี และลงทุนขยายกำลังการผลิตเตาหลอมแก้วที่โรงงานปราจีนบุรี ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วเพิ่มขึ้นเป็น 3,935 ตันต่อวัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 3,495 ตันต่อวัน รวมถึงได้ขยายการลงทุนบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ซึ่งเป็นการเพิ่มพอร์ตสินค้าและความหลากหลายด้านบรรจุภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการภายในประเทศที่มีอัตราเติบโตสูง และรุกขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสต่อยอดรุกเข้าสู่ธุรกิจกลางน้ำเพื่อรองรับเป้าหมายการเติบโตของกลุ่มบรรจุภัณฑ์ในอนาคต

"ปีนี้ถือเป็นปีที่ BGC มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ทั้งการปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นในธุรกิจพลังงาน การปรับโมเดลธุรกิจสู่การเป็น Total Packaging Solutions หลังจากขยายการลงทุนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง การลงทุนก่อสร้างและขยายกำลังการผลิตเตาหลอมแก้ว ตลอดจนขยายการลงทุนบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน ซึ่งการปรับโครงสร้างธุรกิจและแผนลงทุนต่าง ๆ จะเป็นส่วนผลักดันให้บรรลุเป้าหมายที่มีรายได้เติบโตอีกกว่าเท่าตัว จาก 1.1 หมื่นล้านบาท เป็น 2.5 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2568" นายศิลปรัตน์ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGC กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากรัฐบาลเดินหน้าเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 ครบโดส สามารถเดินทางเข้ามายังประเทศไทยและไม่จำกัดพื้นที่ท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นเป็น 63 ประเทศ จากเดิม 43 ประเทศนั้น จะส่งผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูรายได้จากการท่องเที่ยว ตลอดจนการอนุญาตให้ 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ กระบี่ พังงาและภูเก็ต เป็นพื้นที่นำร่องที่สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์และนั่งดื่มภายในร้านได้ถึงเวลา 21.00 น. ภายใต้เงื่อนไขจะต้องเป็นร้านที่ได้รับการรับรองตรวจประเมินความพร้อมตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) และการประกาศยกเลิกมาตรการห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลาที่กำหนด (เคอร์ฟิว) ยกเว้นพื้นที่สีแดงเข้ม 7 จังหวัดที่ยังมีมาตรการควบคุม เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แก้วและความต้องการใช้สินค้าที่เพิ่มขึ้น

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ