นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในธุรกิจบริการออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ครั้งที่ 4/2564 วันที่ 9 พ.ย.2564 ได้มีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของหุ้น (พาร์) จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 5 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 1 บาท ซึ่งส่งผลให้หุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 1,031,604,485 หุ้น จากเดิมที่ 206,320,897 หุ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ถือหุ้น
พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมฯ ได้พิจารณาเห็นชอบให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 2 (AIT-W2) จำนวนไม่เกิน 515,802,242 หน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) โดยมีอัตราการจัดสรรเท่ากับ 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ (หากมีเศษจากการคำนวณตามอัตราการจัดสรรให้ปัดเศษทิ้ง) ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับจากวันที่ออก และมีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ต่อหุ้นสามัญของบริษัท 1 หุ้น โดยราคาใช้สิทธิเท่ากับ 2 บาท ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ AIT-W2 (Record Date) ในวันที่ 10 มกราคม 2565 ทั้งนี้ การกำหนดสิทธิดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ของบริษัท
นอกจากนี้ ได้มีมติเห็นชอบให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวนไม่เกิน 515,802,242 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,031,604,485 บาท รวมเป็น 1,547,406,727 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 515,802,242 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์)หุ้นละ 1 บาท เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความยืดหยุ่นทางการเงิน ในการสำรองเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ เมื่อมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 2 ซึ่งจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีมติเห็นชอบให้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 เพื่อขออนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของหุ้น การออกใบสำคัญแสดงสิทธิฯ การเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ โดยจะจัดขึ้นในรูปแบบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น ในวันที่ 21 ธันวาคม 2564 เวลา 14.00 น. ถ่ายทอดสด ณ ห้องสัมมนา ชั้น 1 สำนักงานใหญ่ บมจ. แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 (Record Date) ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 (ขึ้นเครื่องหมาย XM หรือวันที่ไม่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564)
ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AIT กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการ 1,509 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 119 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการ 5,414 ล้านบาท เติบโต 16% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 4,660 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 380 ล้านบาท เติบโต 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 253 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ทยอยส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ ซึ่งถือเป็นงานที่ดำเนินการมาต่อเนื่องจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เช่น โครงการซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบระยะที่ 2 โครงการก่อสร้างปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีโครงการใหม่ที่เริ่มส่งมอบงานในไตรมาสที่ 3/2564 เช่น โครงการขาย Advanced Service สำหรับระบบ Hybrid CSOC โครงการขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แม่ข่ายสำหรับรองรับการให้บริการ Cloud for Critical Information Infrastructure และโครงการขายเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายพร้อมอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบสารสนเทศของสำนักงานประกันสังคม เป็นต้น
ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในปี 2564 หลายองค์กรให้ความสำคัญกับการลงทุนในด้านนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ถือเป็นการปรับตัวหลังจากต้องเผชิญต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งนี้ AIT ได้ปรับตัวทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วยการเพิ่มการให้บริการใหม่ๆที่รองรับกับกระแสดิจิทัล อาทิ Data Center & Cloud, Cyber Security เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการต่อยอดจากฐานลูกค้าเดิม และเตรียมพร้อมรองรับการเติบโตตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ICT ซึ่งภาครัฐได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าประจำที่มีมาอย่างยาวนาน โดยบริษัทฯ ยังเน้นงานวางระบบเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญสูง โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการให้คำปรึกษา การวางแผนงานโครงการ การออกแบบระบบ การดำเนินการติดตั้ง การฝึกอบรม และการซ่อมบำรุงรักษาแบบครบวงจร ซึ่งถึอเป็นจุดแข็งของ AIT
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 อยู่ที่ประมาณ 7,400 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานทั้งปี 2564 ทำรายได้แตะ 6,500 ล้านบาทได้ตามเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังมีงานที่อยู่ระหว่างรอคำสั่งซื้อจากลูกค้า (Waiting for P/O) อีกประมาณ 210 ล้านบาท รวมถึงมีแผนเข้าร่วมประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยยังคงมุ่งเน้นเข้าร่วมประมูลงานทางด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ตามนโยบายรัฐที่เร่งขับเคลื่อนออกมา
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย