นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจพื้นที่เช่าและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเป็นนักพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าแบบชุมชน เผยถึงการดำเนินงานในช่วงของไตรมาส3 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาด ที่ทำให้มีการล็อคดาวน์อีกครั้งตามนโยบายลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่บริษัทก็ยังสามารถบริหารจัดการได้ดี ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามแผนที่ได้มีการวางไว้ล่วงหน้า ทำให้บริษัทยังสามารถทำกำไรได้ ที่สะท้อนถึงกลยุทธ์มุ่งเน้นการเติบโตของกำไรเป็นหลักสำคัญ
ซึ่งผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวด 9 เดือนแรกปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 49.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 3.4 โดยสาเหตุมาจากการบริหารจัดการต้นทุน การปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร การควบคุมค่าใช้จ่าย และการบริหารต้นทุนค่าเช่าที่ดีขึ้น ขณะที่รายได้ รวมอยู่ที่ 300.2 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21.7 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ดี ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำไตรมาส 3/2564 ปรับลดลง โดยสาเหตุหลักมาจากผลกระทบของช่วงล็อคดาวน์ ตามนโยบายลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจำนวนสาขา IT Junction ที่ลดลง ทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมสำหรับงวด 3 เดือน เท่ากับ 78.9 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 35.5 มีต้นทุนค่าเช่า 6.1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 34.4 ขณะที่กำไรสุทธิ 6.1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 76.8
"ในไตรมาสที่ 3/2564 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่บริษัทเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินงานสำหรับกิจการ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทมีมุมมองต่อผลกำไรดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 ค่อนข้างดี เนื่องจาก ไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงที่มีกำลังซื้อสินค้าของผู้บริโภคสูงสุด (High Season) จึงทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ค่าเช่าได้เต็มที่ และมีส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ JAS Green Village ถนนคู้บอน ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 2 ธันวาคม 2564นี้ ซี่งจะสร้างกระแสรายได้ใหม่ให้กับบริษัท" นายสุพจน์ กล่าว
สำหรับแผนการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ JAS Green Village ในโค้งสุดท้ายของปี เพื่อเป็นแหล่งศูนย์รวมการพบปะสังสรรค์แห่งใหม่ย่านคู้บอน ที่จะทำให้ไตรมาส 4/2564 และในปี 2565 น่าสนใจ ปักธงเปิดตัวอย่างเป็นทางการต้นธันวาคมนี้ ด้วยอัตราผู้เช่าสูงกว่า 90%
ที่มา: ไออาร์ พลัส