นางวัลลภา กล่าวว่า ปี 2564 เป็นปีที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 2 ระลอกที่ 3 และระลอกที่ 4 ต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลประกอบการภาพรวมของบริษัท เราจึงปรับกลยุทธ์ให้เท่าทันสถานการณ์อยู่ตลอด โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างองค์กร ควบคุมและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด การกำหนดกลยุทธ์ตอบโจทย์การสร้างคุณค่าในระยะยาว โมเดลธุรกิจที่แตกต่างสร้างความแข็งแกร่ง ด้วยการปรับปรุงหรือรีแบรนด์ทรัพย์สิน เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันเพื่อความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจมุ่งเน้นศักยภาพการเติบโตของกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนต่อศักยภาพและมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท (Real Value) โดยในไตรมาส 3/2564 บริษัทเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนควบคู่การขยายเครือข่ายที่สามารถสร้างคุณค่า สร้างพันธมิตรระดับโลกเพิ่มช่องทางการขายและการเข้าถึงฐานลูกค้า สร้างแผนการตลาดเข้าถึงกลุ่มลุกค้า ตอบโจทย์การใช้ชีวิตด้วยโครงการคุณภาพที่หลากหลาย พร้อมกลยุทธ์ความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกนำมาตรฐานระดับโลกมาพัฒนาการดำเนินงานสร้างประสิทธิภาพและดูแลสุขอนามัยและการบริการแบบองค์รวมเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตลูกค้าให้ราบรื่นน่าประทับใจ
เพื่อตอบโจทย์แผนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยโครงการที่หลากหลาย ดึงดูดลูกค้ากลับมาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนเปิดโครงการคุณภาพตอบสนองความต้องการในช่วงที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัว พร้อมการเสริมศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ อาทิ การเปิดโรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ ในไตรมาส 4/2564
"บริษัทได้สร้างรากฐานธุรกิจให้มีความพร้อมมากที่สุด เพื่อรับการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 เป็นต้นไป หลังได้รับสัญญาณที่ดีทั้งจากแผนการรับวัคซีนที่ทั่วถึงมากขึ้น แคมเปญเราเที่ยวด้วยกัน เฟส3 รวมทั้งนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว โดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยจะสามารถกลับมาเข้มแข็งและเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างยั่งยืน ตามศักยภาพของประเทศไทยที่เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกจากนักเดินทาง " นางวัลลภา กล่าว
ที่มา: แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น