นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/2564 เติบโตขึ้นทั้งในส่วนของรายได้ จำนวนตู้และจำนวนตันของการส่งสินค้าทางทะเลและทางอากาศ และกำไรสุทธิ โดยมีผลประกอบการที่เป็น New High อย่างต่อเนื่องกันติดต่อกันมาเป็นเวลา 3 ไตรมาส โดยมีกำไรสุทธิอยู่ของไตรมาส 3/2564 ที่ 52.2 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 253 % เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2563 ที่มีกำไรอยู่ที่ 14.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบรอบระยะเวลา 9 เดือนของปีนี้กับปีที่แล้ว รายได้ของบริษัทฯ ขยายตัวมากถึง 168% และกำไรสุทธิเติบโตขึ้นถึง 184% โดยที่กำไรสุทธิของไตรมาส 3/2564 เกือบจะเท่ากับกำไรสุทธิตลอดทั้งปี 2563 ของบริษัทฯที่ทำไว้ 56.9 ล้านบาท ขณะเดียวกันในส่วนของกำไรสุทธิงวด 9 เดือนของปีนี้อยู่ที่ 121.9 ล้านบาท สูงกว่ากำไรสุทธิทั้งปีของปี 2563 พร้อมกันนี้บริษัทฯคาดว่าจะยังสามารถรักษาระดับการเติบโตทางรายได้และกำไรในไตรมาส 4/2564 ให้อยู่ในระดับที่โดดเด่นต่อไปได้
โดยได้รับปัจจัยหนุนจากค่าบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางเรือ สำหรับไตรมาสที่ 3/2564 ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 110% เทียบกับไตรมาสที่ 2/ 2564 และเพิ่มขึ้น 461% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2563 และเมื่อเปรียบเทียบรายได้รวมสำหรับระยะเวลา 9 เดือนแรกปี 2564 กับระยะเวลาเดียวกันของปี 2563 เพิ่มขึ้น 249% สาเหตุจากอัตราค่าระวางที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และมีปริมาณตู้สินค้าที่ให้บริการขนส่งทางเรือเพิ่มขึ้น
อีกทั้ง ค่าบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางอากาศ สำหรับไตรมาสที่ 3/2564 มีรายได้เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2564และเพิ่มขึ้น 66% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2563 และเมื่อเปรียบเทียบรายได้รวมสำหรับระยะเวลา 9 เดือนแรกปี 2564 กับระยะเวลาเดียวกันของปี 2563 เพิ่มขึ้น 6% เนื่องจาก ปริมาณการนำเข้าและส่งออกทางอากาศยังเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวน Volume เพิ่มขึ้น 86% และมีการรับรู้รายได้ของ China Post เข้ามาด้วย ขณะที่ธุรกิจให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า รายได้เพิ่มขึ้นสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับการเติบโตของบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งทางเรือและทางอากาศ
นอกจากนี้ LEO ในไตรมาส 4/2564 นี้ พร้อมที่จะขยายการให้บริการ LEO Self Storage ไปยังสาขาที่ 2 บริเวณ ตลาดน้อย ถนนเจริญกรุง ใกล้กับย่านเยาวราช โดยสาขาที่ 2 นี้ มีพื้นที่เพิ่มอีก 2,000 - 3,000 ตารางเมตร ทางบริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะทำให้ LEO Self-Storage#2 เป็น Flagship store ของ LEO Self Storage ด้วยการให้บริการที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มเปิดให้บริการภายในเดือนธันวาคม 2021 นี้ อีกทั้งบริการลานพักตู้สินค้าคอนเทนเนอร์แห่งที่ 2 ที่ตั้งอยู่บริเวณ ถนน บางนา - ตราด กม.21 ก็สามารถเริ่มให้บริการในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เช่นเดียวกัน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LEO กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องและมีโอกาสที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่เช่นกัน ตามปริมาณการขนส่งและค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ที่ยังทำสถิตินิวไฮ
อย่างต่อเนื่อง โดยที่ Shanghai Containerized Freight Index (SCFI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดค่าระวางขนส่งของค่าระวางในระบบตู้คอนเทนเนอร์ ก็ได้ขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 4647 จุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อีกทั้งยังเริ่มรับรู้รายได้จากการขนส่งสินค้า E-Commerce จีน-ไทย จากการเป็นพันธมิตร China post ส่งผลให้ให้รายได้-กำไร เติบโตอย่างมีนัยสำคัญต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565 พร้อมขยายการให้บริการ LEO Self Storage และบริการลานพักตู้สินค้าให้ขึ้นมาเป็นดาวเด่นในการสร้างผลกำไรให้กับบริษัทฯ พร้อมกับพัฒนาการให้บริการร่วมกับ China Post เพื่อทำหน้าที่เป็น 'One-Stop Service Provider' ให้กับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซให้สามารถนำเข้าและส่งออกสินค้าจากประเทศจีน พร้อมกับกระจายสินค้าไปยังปลายทางทั่วโลก
นอกจากนี้ LEO มีเป้าหมายที่จะทำ M&A กับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ในประเทศไทยและในกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ เวียดนามและอินโดนีเซีย โดยเราคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงกับบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ในไตรมาส 4/2564 นี้ และรับรู้รายได้ภายในปี 2565 อย่างน้อย 1 บริษัท
ที่มา: ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์