CGD มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน

จันทร์ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๐๒๑ ๑๐:๕๔
บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGD รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและเปิดเผยความคืบหน้าในการเสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้างเงินทุน แม้จะมีความท้าทายจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 แต่ CGD ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทประสบความสำเร็จในขั้นแรกตามกลยุทธ์การเพิ่มความแข็งแกร่งเงินทุนและลดภาระหนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงของสถานะทางการเงินสำหรับการเติบโตในระยะยาว

ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 บริษัทมีรายได้รวม 629.7 ล้านบาท และสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564มีรายได้รวม 2,654.5 เพิ่มขึ้น 19.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นรายได้หลักจากการโอนและการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องของโครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ และยังมีกำไรขั้นต้นในระดับสูง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ผันผวน บริษัทมีความมุ่งมั่นในการควบคุมต้นทุนและรักษาเสถียรภาพทางการเงินของกลุ่มบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 รอบใหม่ ส่งผลให้ภาครัฐออกมาตรการล็อกดาวน์และทำให้การให้บริการของธุรกิจโรงแรมในไตรมาสที่ผ่านมาดำเนินการได้อย่างจำกัด รวมถึงมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ถูกนำมาใช้ในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างเหมาะสม

ด้านการอ่อนตัวลงของค่าเงินบาทในไตรมาส 3 ที่ส่งผลต่อการบันทึกบัญชีทำให้ในงบการเงินประจำไตรมาสมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจำนวน 720.1 ล้านบาท แต่นั่นเป็นเพียงรายการขาดทุนทางบัญชีเท่านั้นและไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของกลุ่มบริษัท อย่างไรก็ดีค่าเงินบาทได้แข็งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องภายหลังสิ้นไตรมาส ทั้งนี้กลุ่มบริษัทยังคงดำเนินตามแผนลดภาระหนี้ เพื่อลดต้นทุนทางการเงินและลดความเสี่ยงจากการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในอนาคต

โดยกลุ่มบริษัทจะสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินและแบรนด์ที่มีคุณภาพสูงเพื่อสร้างรายได้ โดยคาดว่าจะทำให้กลุ่มบริษัทมีผลประกอบการดีอย่างต่อเนื่องจากการทยอยรับรู้รายได้ในทรัพย์สินที่พร้อมโอนมูลค่าเกือบ 1.5 หมื่นล้านในไตรมาสถัดๆ ไป

นอกจากนี้นาย เบน เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยเพิ่มเติมว่า "บริษัทประสบความสำเร็จในขั้นแรกตามกลยุทธ์การเพิ่มความแข็งแกร่งเงินทุนและลดภาระหนี้ โดยได้ดำเนินการขายหุ้นร้อยละ 51 ในบริษัท วอเตอร์ฟร้อนท์ โฮเต็ล จำกัด ("WFH") และ บริษัท เออร์เบิน รีสอร์ท โฮเต็ล จำกัด ("URH") ให้กับบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 เรียบร้อยแล้ว กระแสเงินสดจากการทำธุรกรรมดัง กล่าวทำให้บริษัทมีความพร้อมที่จะชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ค่าก่อสร้างที่มีอยู่ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเร่งลดภาระหนี้ที่มีแผนจะลดภาระหนี้ลงถึงร้อยละ 88 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงของสถานะทางการเงินสำหรับการเติบโตในระยะยาว" 

ที่มา: บางกอก ออทัม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๗ เอ. เจ. พลาสท์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก SET Awards 2024 และได้รับการประเมิน CGR ดีเลิศ ระดับ 5 ดาว
๑๖:๑๓ เปิดมาตรการ พักหนี้ ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือ SMEs ถูกน้ำท่วมในงาน มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 เชียงใหม่
๑๖:๓๙ หน้าหนาวมาเยือน! กรมอนามัยเตือนดูแลสุขภาพให้พร้อม เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
๑๖:๕๗ เปิดรันเวย์อวดผลงานไอเดียสร้างสรรค์ของ 5 ผู้ชนะรางวัลทุนการศึกษา จากโครงการ Jaspal Group Scholarship Program
๑๖:๐๘ กิฟฟารีน แนะนำไอเทมเด็ด กิฟฟารีน เอช เอ็ม บี พลัส วิตามินดี 3 สำหรับช่วยดูแลมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
๑๕:๐๑ ไขข้อสงสัย สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร
๑๕:๓๘ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ออกรถใหม่ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง
๑๕:๐๕ ยางขอบ 17 ยี่ห้อไหนดีที่ขับขี่สนุก และยังคงนุ่มสบาย
๑๔:๕๖ heygoody คว้าแชมป์จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 ตอกย้ำความเข้าใจลูกค้า Introvert
๑๔:๐๓ เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากล ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และเป็นองค์กรสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการ