DDD เปิดงบ 9 เดือน ปี 64 รายได้โต 35%

อังคาร ๑๖ พฤศจิกายน ๒๐๒๑ ๑๑:๒๙
"DDD" โชว์รายได้งวด 9 เดือน ปี 64 โต 35.47% เชื่อไตรมาส 4 ดีขึ้น ตามแผน Fit for Growth หลังปรับกลยุทธ์เน้นขายออนไลน์ ออกสินค้าใหม่ บริหารค่าใช้จ่าย คาดผลประกอบการทั้งปี โตตามเป้า

นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช กรรมการ รองประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสเนลไวท์ เปิดเผยผลการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งหมด 1,083.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 283.67 ล้านบาท หรือ 35.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของก่อน (yoy) โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากยอดขายออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการออกผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่และแบรนด์สินค้าใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่สนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนนั้น บริษัทฯ มีรายได้หลักจากการขายรวม 868.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 166.08 ล้านบาท หรือ 23.65% ซึ่งคิดเป็น 80.13% ของรายได้รวมและรายได้อื่นๆ 215.33  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117.59 ล้านบาท หรือ 120.31% คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 19.87%  ซึ่งรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น มาจากรายได้ส่วนงานธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 384.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.07 ล้านบาท หรือ 15.30% จากยอดขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศฟิลิปปินส์ที่เติบโตเป็นอย่างมาก ทั้งจากช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านค้าชั้นนำ (Modern Trade) และช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการทำแผนการตลาดเพื่อนำสินค้าไปจำหน่ายมากขึ้น สำหรับรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงาม มียอดขายอยู่ที่ 483.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.01 ล้านบาท หรือ 31.23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท คิวรอน จำกัด ครบ 100% เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การเติบโตขึ้นของรายได้ สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนกำไรขั้นต้นในช่วง 9 เดือนแรก ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 59% จาก 55% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 3 สัดส่วนดังกล่าวมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเพิ่มขึ้นเป็น 64% จาก 50% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการที่บริษัทสามารถเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าที่มีกำไรสูงมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงสร้างต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นตามแผน Fit for Growth ที่ได้วางไว้สำหรับปีนี้ โดยมีต้นทุนขายสำหรับงวด 9 เดือน อยู่ที่ 359.54 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนต้นทุนขายต่อรายได้จากการขาย 41.41% ลดลงจาก 45.16 % ในช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะบริษัทมีสินค้าเสื่อมสภาพลดน้อยลงอย่างมาก และเมื่อเทียบอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายต่อรายได้จากการขายมีสัดส่วนลดลงเช่นเดียวกัน โดยลดลงอยู่ที่ 43.22% จาก 46.26% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ ได้ลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการโฆษณาและค่าส่งเสริมการขายลงเพื่อปรับให้เหมาะสมกับสถาณการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าบางส่วนของบริษัทฯ ไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ ประกอบกับบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นการโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลักเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

"ในช่วงไตรมาส 3 บริษัทฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์สเปรย์พ่นปากและลำคอที่มีส่วนผสมของฟ้าทะลายโจร ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้ง การเปิดตัวแบรนด์สินค้าใหม่ "N LIFE PLUS" เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาสนใจสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าในไตรมาส 4 จะปรับตัวดีขึ้น หลังภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ส่งผลให้ยอดขายผ่านช่องทางจำหน่ายโมเดิร์นเทรดและห้างสรรพสินค้าต่างๆ เพิ่มขึ้นตามมา นอกจากนี้ แผนการย้ายคลังสินค้า และรวมศูนย์การขนส่งของกลุ่มบริษัทน่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน ช่วยให้ต้นทุนในการดำเนินงานลดลงอีกในปี 2565" นางสาวนันทวรรณ กล่าว

นางสาวนันทวรรณ  กล่าวต่อว่า ล่าสุดบริษัทฯได้ลงนามในสัญญากับ Netizen ในการปรับปรุงระบบ ERP ใหม่ โดยมุ่งหวังเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการวิเคราะห์ข้อมูล การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง รวมถึงเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้ดีขึ้น โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 10 เดือน

นอกจากนี้ ในไตรมาสสุดท้ายของปี บริษัทฯ ยังคงเน้นขยายช่องทางการขายมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางการขายผ่านออนไลน์ รวมถึงการเพิ่มช่องทางขายใหม่ๆ ให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเป้าหมาย และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในยุคโควิด-19  เช่น การทำ Live stream เป็นต้น รวมถึงการรุกทำการตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเพิ่มจุดขายในประเทศฟิลิปปินส์และการเตรียมแต่งตั้งตัวแทนกระจายสินค้าในประเทศกัมพูชา ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายและรักษายอดขายไว้ได้  

ที่มา: บริษัท เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version