"TNITY" อู้ฟู่ ผลประกอบการ 9 เดือน ปี 64 กำไรพุ่ง 2,547 %

พฤหัส ๑๘ พฤศจิกายน ๒๐๒๑ ๐๙:๕๙
"TNITY" แจ้งกำไรงวด 9 เดือน ปี 64 กว่า 173.74 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 2,547 % รายได้เติบโตทุกช่องทาง ทั้งนายหน้าซื้อขายหุ้น ค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาขายหุ้น "IPO" รายได้ดอกเบี้ยและกำไรพอร์ตลงทุน

นายชาญชัย กงทองลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทรีนีตี้ วัฒนา (TNITY) เปิดเผยว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือน ปี 2564 จำนวน 173.74 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.83 บาท เพิ่มขึ้น 2,547% เมื่อเปรียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 7.10 ล้านบาท ขณะที่งวดไตรมาส 3 ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 64.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,649.72% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.7 ล้านบาท

ทั้งนี้ งวด 9 เดือนปีนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 725.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107% เมื่อเปรียบเทียบ กับงวดเดียวกันปี 2563 ที่มีรายได้รวม 350.56 ล้านบาท ซึ่งรายได้ของบริษัทเติบโตในทุกๆ ช่องทาง ประกอบด้วย รายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ ที่เพิ่มขึ้น 48.28 % เป็น 448.65 ล้านบาท จาก 302.57 ล้านบาทในงวด 9 เดือนปี 2563 เนื่องจาก 1.รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 58.10% เป็น 263.53 ล้านบาท จาก 166.69 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนปี 2563 ตามปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวมของตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 96,462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.49% จากงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 64,526 ล้านบาท หลังจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นมาซื้อขายเหนือระดับ 1,600 จุด โดยสิ้นเดือน ก.ย.2564 ดัชนีปิดที่ 1,605.68 จุด

2.รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 35.28 % เป็น 89.12 ล้านบาท จาก 65.88 ล้านบาท ในงวดเดียวกันปี 2563 จากค่าธรรมเนียมจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ เนื่องจากในงวด 9 เดือนแรกปีนี้บริษัท ได้เป็นที่ปรึกษาในการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ ) จำนวน 3 บริษัท ประกอบด้วย บมจ.เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (AMR), บมจ.โคลเวอร์ เพาเวอร์ (CV) และบมจ.เบริล 8 พลัส (BE8)

3.รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 91.41 ล้านบาท จาก 60.23 ล้านบาท ในงวดเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นในระหว่างงวด จากการที่นักลงทุนรายบุคคลยังมีบทบาทสูงต่อการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย

นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรและผลตอบแทนจากเงินลงทุนรวมในงวด 9 เดือนจำนวน 113.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 300% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 56.89 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ที่กดดัชนีหุ้นไทยลงแรงเกือบ 600 จุดในช่วงไตรมาสแรกปีก่อน และมีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 22.8 %เป็น 87.96 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 71.63 ล้านบาท จากเงินให้กู้ยืมอื่นที่เพิ่มขึ้นในงวด 9 เดือนปี 2564

ด้านฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 6,249.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมเมื่อสิ้นปี 2563 ที่มีจำนวน 5,043.36 ล้านบาท เกิดจากการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 3,258.95 ล้านบาท จาก 2,404.69 ล้านบาทและเงินให้กู้ยืมอื่นเพิ่มขึ้นเป็น 1,357.36 ล้านบาท จาก 1,081.51 ล้านบาท โดยคิดเป็นสัดส่วน 52.14% และ 21.72% ของสินทรัพย์รวมของปี 2564 ตามลำดับ

ที่มา: ทรีนีตี้ วัฒนา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ