EPG ยอดขายครึ่งปีแรก (เม.ย. - ก.ย.64) เติบโตแข็งแกร่ง กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 125.6% จากปีก่อน ลุ้นครึ่งปีหลัง (ต.ค.64 - มี.ค.65) เติบโตต่อเนื่อง พร้อมจ่ายปันผลระหว่างกาล 14 สตางค์ 8 ธ.ค.นี้

พฤหัส ๑๘ พฤศจิกายน ๒๐๒๑ ๑๖:๐๗
รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยว่าผลประกอบการของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในงวด 6 เดือนของปีบัญชี 64/65 (เม.ย - ก.ย.64) มียอดขาย 5,914.2 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 4,281.8 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 38.1% มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 31.7% และ มีกำไรสุทธิ 862.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 382.3 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 125.6% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ทั้งจากการผ่อนคลายมาตรการ ล็อกดาวน์หลังการเร่งฉีดวัคซีน และมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของ Covid-19 การปรับขึ้นราคาพลังงาน และอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยที่ท้าทายต่อการดำเนินธุรกิจ โดยในปีบัญชี 64/65 (เม.ย.64 - มี.ค.65) บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 11,000 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นที่ 29 - 32% และคาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีบัญชี 64/65 (ต.ค.64 - มี.ค.65) จะสามารถเติบโตได้ดีขึ้นกว่าเป้าหมาย หากเศรษฐกิจโลกในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องถึงต้นปีหน้ายังมีแนวโน้มเติบโตแม้จะชะลอตัวลงบ้าง รวมถึงไทยเปิดประเทศแล้ว และหวังว่าจะสามารถควบคุมการระบาดของ Covid-19 ได้ดี

สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปีบัญชี 64/65 (ต.ค.64 - มี.ค.65) ของ 3 กลุ่มธุรกิจ มีดังนี้

ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกาซึ่งมีสัดส่วนยอดขายมากที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ และในประเทศ โดยฐานการผลิตโรงงานแห่งใหม่ในสหรัฐอเมริกา ได้นำเครื่องจักรระบบอัตโนมัติความเร็วสูงมาใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เตรียมพร้อมสำหรับขยายตลาดรองรับความต้องการในอนาคต ขณะที่ตลาดยุโรปยอดขายรายไตรมาสปรับตัวดีขึ้น สำหรับตลาดในประเทศ คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวจากการคลายล็อคดาวน์และเปิดประเทศ อีกทั้ง Aeroflex อยู่ระหว่างปรับขึ้นราคาขายสินค้าเพื่อชดเชยต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการ และมีการปรับปรุงต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต

ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas และ TJM ยอดขายมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากคำสั่งซื้อของกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้ง AEROKLAS มีจุดแข็งด้านช่องทางการจัดจำหน่ายทั้ง OEM/ ODM (Original Design Manufacturer) After Market และการส่งออก จึงสามารถใช้ช่องทางดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้เกิด Synergy ของกลุ่มธุรกิจทั้งหมดของ AEROKLAS อีกทั้ง แนวโน้มความต้องการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)ในอนาคตจะเพิ่มขึ้น มีความต้องการใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ที่มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงทนทาน จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจของ AEROKLAS

สำหรับธุรกิจในออสเตรเลีย มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากความนิยมท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น

และความต้องการยานยนต์ประเภท Light Commercial Vehicle และ SUV ปรับสูงขึ้น อีกทั้ง ออสเตรเลีย คลายล็อคดาวน์และเปิดประเทศแล้ว TJM เตรียมความพร้อมรองรับลูกค้าในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ และร้านค้า ภายใต้แบรนด์ TJM ทั่วออสเตรเลีย

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP คาดว่าจะเติบโตดีขึ้นเนื่องจากได้เปิดประเทศแล้วกิจกรรมต่าง ๆ ภายในประเทศเริ่มกลับมาดำเนินการตามปกติ สำหรับยอดขายบรรจุภัณฑ์ประเภทถ้วยน้ำดื่มที่ชะลอตัวเริ่มกลับมาดีขึ้น อีกทั้งบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องใส่อาหาร เป็นสินค้าที่ผู้บริโภคมีความคุ้นชินและเลือกใช้งานเพราะคำนึงถึงความสะอาด ความปลอดภัย และความสะดวกในการบริโภคเป็นหลัก

สำหรับบริษัทร่วมทุนและการร่วมค้า ภาพรวมปรับตัวดีขึ้นทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมฉนวนกันความร้อน/เย็น และกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ โดย Aeroklas Duys (Pty) Ltd. แอฟริกาใต้ ได้รับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นและหลากหลายขึ้น และบริษัท ฟาร์แอร์โร จำกัด ได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการผลิตเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้ายานยนต์ OEM คาดว่าจะเริ่มผลิตภายในไตรมาส 4 ปีบัญชี 64/65 (ม.ค. - มี.ค.65)

รศ.ดร.เฉลียว กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 64 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานสิ้นสุด 30 ก.ย. 64 ในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท (สิบสี่สตางค์) รวมเป็นจำนวนเงิน ทั้งสิ้น 392.0 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 26 พ.ย.64 และ กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 ธ.ค.64

ที่มา: เวิร์คลิ้งค์ ดาเอเจนซี่

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ