ดร.อนันต์ พิริยะภัทรกิจ กล่าวว่า วว. มุ่งเน้นการทำงานเครือข่ายกับเกษตรกรในการปรับปรุงพันธุ์และการปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับ โดยใช้องค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมร่วมกับพันธมิตรบูรณาพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยไม้ดอกไม้ประดับ โดยประสบผลสำเร็จในการวิจัยพัฒนาแพลตฟอร์มจำนวน 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่
Smart Farming การพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์เพื่อเพิ่มผลผลิต ต้านทานโรคและแมลง ลดการใช้สารเคมี ตลอดจนคำนึงถึงคุณภาพ ปริมาณต้นทุนที่เหมาะสม เพียงพอต่อความต้องการของตลาดและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
Argro Product ได้ผลิตภัณฑ์เกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ ผลผลิตทางการเกษตรเป็นวัตถุดิบตั้งต้นอุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐาน GAP และออร์แกนิก
Agro Tourism สนับสนุนการท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดภายใต้โครงการฯและจังหวัดอื่นๆ
Value Addition / Value Creation ผลผลิตจากดอกไม้สามารถนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอาหาร สุขภาพและความงาม
รศ.ธัญญะ เตชะศีลพิทักษ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ไม้ดอกไม้ประดับมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเรา ใน 3 กรอบใหญ่ ได้แก่ 1. เป็นสื่อแสดงความรู้สึก ในการแสดงความยินดี การแสดงความรัก และการแสดงความเสียใจ 2.เสริมสร้างสภาพแวดล้อม ช่วยให้เกิดความสดชื่น ช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อม และ 3.การประกอบอาชีพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้เราต้องมาช่วยกันสร้างความยั่งยืนให้กับอาชีพที่เกี่ยวข้องกับไม้ดอกไม้ประดับ ให้รู้จักว่าดอกไม้มีคุณค่าแท้จริงอย่างไร เป็นอาชีพที่มั่นคงให้แก่เกษตรกร คนทำดอกไม้ แม่ค้า เป็นต้น
คุณภูเบศร์ เจษฎ์เมธี รองประธานสภาดอกไม้โลก กล่าวถึงแพลตฟอร์มการตลาดและการผลิตไม้ดอกไม้ประดับว่า มีความเกี่ยวเนื่องกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานคือ ผู้บริโภคทั่วไป ผู้บริโภคอื่น ผู้จำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวการจัดไม้ดอกไม้ประดับ ผู้จำหน่ายอุปกรณ์การผลิตไม้ดอก เกษตรกร ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีกและผู้ส่งออก โดยหน่วยงานภาครัฐจะต้องให้ความรู้เกี่ยวกับไม้ดอกไม้ประดับเพื่อสร้างความตระหนักและให้เห็นความสำคัญในการใช้ผลผลิตภายในประเทศมากขึ้น มีการแลกเปลี่ยนความรู้ มีการสื่อสาร การวางแผนการผลิต การซื้อขายทั่วไปและการซื้อขายล่วงหน้า เพื่อให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ มีความมั่นคงและยั่งยืนในการประกอบอาชีพ เนื่องจากไม้ดอกไม้ประดับจะมีเทรนด์ในการเปลี่ยนแปลงในสังคมโลกทุกๆ 2 ปี "Color of the year" ในปี 2022 เทรนด์จะเป็นสีเขียวและส้ม ซึ่งเราต้องทันสมัย รู้เท่าทันสถานการณ์ เพื่อให้แข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและรับบริการจาก ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ วว. ติดต่อได้ที่ โทร. 0-2577-9000 Email : [email protected] เว็บไซต์ www.tistr.or.th
ที่มา: สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย