โนโว นอร์ดิสค์ ประเทศไทย คว้าอันดับ 1 ไปครองในปีนี้ ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของ โซเอทิส ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทสุขภาพสัตว์ระดับโลก ส่วนทางด้าน โรช ประเทศไทย ตามมาในอันดับ 3 ขณะที่อันดับ 4 ตกเป็นของ พีเจ พาราวู้ด ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านรายใหญ่ของไทย และอันดับ 5 คือ ไอโนวา บริษัทเภสัชภัณฑ์ผู้พัฒนาและจำหน่ายยาที่วางขายทั่วไปและยาที่แพทย์สั่งจ่าย
นายจอห์น ดอว์เบอร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ประเทศไทย ระบุในแถลงการณ์ว่า "เรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในประเทศไทย 2 ปีซ้อน ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งกับผลสำเร็จในฐานะบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 เราตั้งใจทำงานอย่างหนักและใช้วิธีการที่เป็นระบบในการทำตามข้อเสนอแนะของพนักงาน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ทุกคนรู้สึกมีความสุข ปลอดภัย มีส่วนร่วม และประสบความสำเร็จ แม้แต่ในช่วงที่ต้องทำงานจากบ้าน เราก็เอาใจใส่สถานการณ์ของพนักงานแต่ละคน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีที่สุดสำหรับพนักงานที่ต้องเผชิญสถานการณ์แตกต่างกัน"
นางกุลปรียา พุทธฤดีสุข ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศ บริษัท โซเอทิส ประเทศไทย กล่าวว่า "ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจกับความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของทีมงานในการขับเคลื่อนเป้าหมายทางธุรกิจผ่านความเชื่อหลักของเรา ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันกลยุทธ์การเติบโตอันทันสมัยของบริษัท การยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า หรือการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน พนักงานของเราล้วนมีส่วนช่วยสร้างความแตกต่าง เราในฐานะทีมผู้บริหารประจำประเทศไทย มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเดินหน้าส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสวัสดิภาพของพนักงาน การมีส่วนร่วมของพนักงาน และการพัฒนาพนักงาน จะยังคงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญต่อไป การที่จะเอาชนะใจลูกค้าในตลาดได้นั้น เราต้องเอาชนะใจพนักงานในบริษัทก่อน"
นายฟาริด บิดโกลิ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โรช ประเทศไทย ระบุว่า ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลพวงมาจากวัฒนธรรมองค์กรอันยอดเยี่ยม โดยกล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในประเทศไทย เราเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายและต้องการสร้างความแตกต่างอย่างมีความหมายต่อการดูแลสุขภาพของผู้คนในสังคม พนักงานของเราไม่เคยหยุดยั้งในการบรรลุเป้าหมายทั้งในประเทศไทยและตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก เรามุ่งเน้นการเสริมสร้างพลังให้แก่พนักงาน การส่งเสริมแนวคิดที่ว่าพนักงานสามารถพัฒนาตนเองได้ และการสร้างความรู้สึกปลอดภัยทางใจให้แก่พนักงาน ซึ่งเป็นหลักการสำคัญที่เราใช้ในการบริหารงาน มีปฏิสัมพันธ์ และปฏิบัติงาน ผมขอขอบคุณพนักงานทุกคนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนวัฒนธรรมองค์กรและวิธีการทำงานที่คล่องตัวของเรา และนี่คือรางวัลของพนักงานทุกคน เพราะทุกคนทำให้บริษัทน่าทำงาน"
ทั้งนี้ ทุกปีในประเทศไทย "Best Places to Work" จะร่วมมือกับองค์กรกว่า 25 แห่งในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยให้องค์กรเหล่านี้สามารถวัดผล สร้างมาตรฐาน และปรับปรุงแนวทางปฏิบัติด้านทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนเข้าถึงเครื่องมือและความเชี่ยวชาญที่จำเป็นเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bestplacestoworkfor.org หรือติดตามลิงค์อิน ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก