นายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) (OTO) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 บริษัท อินโน ฮับ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ของบริษัทฯ ได้เข้าทำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น กับ บริษัท บล็อกเชน ไพรม์ โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อเข้าร่วมถือหุ้นในสัดส่วน 20% จากทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทที่ปรึกษาและพัฒนาแพลตฟอร์ม Blockchain Solutions และนวัตกรรมพลิกโลกชั้นนำของเมืองไทย นำร่องในโครงการแรกด้วยโปรเจค Social Bureau ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรายงานและตรวจสอบประวัติอาชญากรรมบนบล็อกเชนแห่งแรกของโลก ภายใต้ความร่วมมือของบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีระดับแนวหน้าของเมืองไทยมากมาย เช่น บริษัท อีนิกเซอร์ จำกัด บริษัท อีรูไดท์ บริการวิศวกรรม จำกัด และบริษัท อะควาริโอ จำกัด
"การสยายปีกการลงทุนของ OTO ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการเดินหน้าพัฒนาเข้าสู่ธุรกิจด้านบล็อกเชนและคริปโตเคอเรนซี่อย่างเต็มตัว สอดรับเมกะเทรนด์หรือเทรนด์ใหญ่ของโลกในด้านเทคโนโลยี ที่มีผลต่อการพัฒนาคริปโตเคอเรนซี่ เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น" นายคณาวุฒิ กล่าวในที่สุด
พ.ต.อ.ปองพล เอี่ยมวิจารณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บล็อกเชน ไพรม์ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันวิถีชีวิตและระบบเศรษฐกิจของประชาคมโลกรวมถึงสังคมไทย กำลังถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วยการขับเคลื่อนของเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังมาทดแทนเทคโนโลยีเก่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศไทยจำเป็นต้องตื่นตัวกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้ทันการณ์ เพื่อให้เราสามารถชิงความได้เปรียบในส่วนแบ่งทางการตลาดโลกด้านการเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลบนพื้นฐานของนวัตกรรมพลิกโลก แทนที่จะเป็นผู้ใช้บริการฝ่ายเดียว โดยทางบริษัทมีโครงการจะพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลบนระบบบล็อกเชน เพื่อแนะนำบริการใหม่ๆ สู่สังคมโลกอยู่หลายโครงการ ซึ่งมีแผนจะเปิดตัวแพลตฟอร์ม Social Bureau เป็นโครงการนำร่องในประมาณไตรมาสแรกของปี 2565 นี้
แพลตฟอร์ม Social Bureau ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้ให้บริการด้านกระบวนการยุติธรรมแบบครบวงจร ด้วยการเป็นช่องทางให้ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งข้อมูลอาชญากรรม โดยผู้แจ้งจะได้รับค่าตอบแทนเป็นคริปโตเคอเรนซี่ ในระบบนิเวศน์ของ Social Bureau ตอบแทน ซึ่งข้อมูลที่รายงานเข้ามาจะได้รับการตรวจสอบยืนยันความถูกต้องและจัดลำดับความน่าเชื่อถือของข้อมูลโดยชุมชนผู้ใช้งานด้วยกระบวนการ Proof-of-Stake และข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ได้รับรายงานจากผู้ใช้งานทั่วโลกจะถูกเชื่อมโยงเข้าหากันด้วย AI ที่ชาญฉลาดเพื่อระบุตัวคนร้ายที่แท้จริง ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของคู่ค้าก่อนตัดสินใจทำธุรกรรมใดๆได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีบริการอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การตั้งรางวัลนำสืบหาตัวผู้กระทำผิดหรือหาข้อมูลทางคดี การชดใช้มูลค่าความเสียหาย การจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม การหาข้อยุติระหว่างคู่พิพาท และบริการอื่นๆ อีกมากมาย
ทั้งนี้ แพลตฟอร์มโซเชียลบูโรเป็นโครงการริเริ่มขึ้นในประเทศไทย และในปัจจุบันได้รับความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.socialbureau.io
ที่มา: ไออาร์ เน็ตเวิร์ค