COVID สายพันธุ์โอไมครอนป่วนโลก กูรูทิสโก้ชี้อาจฉุดตลาดหุ้นร่วง 15-20%

อังคาร ๓๐ พฤศจิกายน ๒๐๒๑ ๑๑:๕๕
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์การลงทุนทิสโก้ประเมิน 2 กรณี COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) ระบาด ชี้กรณีเลวร้ายหุ้นทั่วโลกเตรียมร่วง 15-20% กรณีระบาดน้อยหุ้นมีโอกาสขึ้น (Upside) จากปัจจุบันแค่ 2-3% คาดข่าวร้ายยังกดดันตลาดช่วง 2-3 สัปดาห์นี้

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr.Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า หลังจากที่หลายประเทศเริ่มพบผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า สายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล และอาจมีความสามารถในการแพร่กระจายได้ดีกว่าสายพันธุ์ Delta อีกทั้งได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในหลายพื้นที่ในแอฟริกาแล้ว รวมทั้งอาจมีความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าจะสามารถควบคุมหรือจัดการไวรัส COVID สายพันธุ์ใหม่นี้ได้อย่างไร คาดว่าแต่ละประเทศคงต้องใช้นโยบายเชิงป้องกันด้วยการจำกัดการเดินทางเข้าและออกประเทศอย่างเข้มงวด ส่วนผลกระทบด้านเศรษฐกิจนั้น ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะประเมินถึงความเสียหาย แต่เบื้องต้นได้คาดการณ์กรณีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ไว้ 2 กรณีคือ 1.กรณีที่ไม่รุนแรง (Best Case Scenario) และ 2.กรณีที่สร้างผลกระทบรุนแรง (Worst Case Scenario)

โดยกรณีสร้างผลกระทบรุนแรงนั้น หาก Omicron มีความสามารถในการระบาดสูงกว่า Delta 2 เท่า และวัคซีนที่มีอยู่ไม่สามารถยับยั้งการระบาดของโรคได้ หากเป็นเช่นนี้ทั่วโลกอาจจะเจอกับการแพร่ระบาดรุนแรงเทียบเท่ากับเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ Alpha ในช่วงที่ยังไม่มีวัคซีน ดังนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือหลายประเทศอาจต้องกลับไปใช้มาตรการ Lockdown ที่เข้มงวดอีกครั้ง เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยจะพุ่งขึ้นเรื่อยๆ จนโรงพยาบาลรับไม่ไหว

"ยิ่งไปกว่านั้นการ Lockdown รอบนี้รัฐบาลและธนาคารกลางของแต่ละประเทศเริ่มจะมีข้อจำกัดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากปัจจุบันเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง อีกทั้งระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) จะถูกกระทบจากผลของ Lockdown ทำให้เงินเฟ้อยังทรงตัวในระดับสูง แม้ความต้องการบริโภค (Demand) จะลดลง ทั้งนี้ หากเป็นไปคาดการณ์ว่า Omicron ระบาดอย่างรุนแรง ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสปรับลงจากปัจจุบันถึง 15-20%" นายคมศรกล่าว

ในทางกลับกัน กรณีผลกระทบไม่รุนแรง (Best Case Scenario) โดย COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่กังวล ตลาดหุ้นก็อาจปรับขึ้น (Rebound) กลับไปในระดับก่อนมีข่าว หรือมีโอกาสปรับขึ้นประมาณ 2-3% เท่านั้น

นายคมศรกล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าโอกาสที่หุ้นทั่วโลกจะปรับตัวลง (Downside) ยังมีมากกว่า โอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น (Upside) อย่างมาก ดังนั้น ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้จึงประเมินว่า ตลาดหุ้นที่ระดับปัจจุบันยังไม่สะท้อนความเสี่ยงจากประเด็นนี้อย่างเพียงพอ และน่าจะยังถูกกดดันต่อเนื่องในระหว่างที่กำลังรอความชัดเจน ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์

ที่มา: ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version