PRAPAT มั่นใจธุรกิจปี 65 ฟื้นตัว หลังโควิดผ่อนคลาย

พุธ ๐๑ ธันวาคม ๒๐๒๑ ๑๓:๐๔
PRAPAT เปิดแผนธุรกิจปี 65 รุกตลาดต่างประเทศ เร่งอัดแคมเปญโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์  ดันยอดโตตามเป้า ส่วนผลดำเนินงานไตรมาส 4 ปีนี้ มั่นใจผลงานทยอยฟื้นตัว หลังมีคำสั่งซื้อเพิ่มรับข่าวดีคลายล็อกดาวน์ รองรับการเปิดประเทศ  

นายสุกานต์ อินทรสูต ผู้จัดการอาวุโส (ช่องทางจัดจำหน่าย) บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT  ผู้นำตลาดเทคโนโลยีทำความสะอาด CLEANING  HYGIENE SOLUTIONS ในกลุ่มอุตสาหกรรมการบริการและอาหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยภาพรวมธุรกิจบริษัทใน 10 เดือนแรกปี 2564  ว่า ต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อรองรับการพลิกฟื้นของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด 19 โดยเฉพาะช่วงที่กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ท ซึ่งเป็นตลาดลูกค้าหลักของบริษัทไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ทำให้บริษัทมีรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เพื่อทำความสะอาดด้านซักรีดลดลง จึงต้องเข้าไปทำตลาดในกลุ่มอื่นๆ เพิ่ม เช่น  ร้านซักรีดในชุมชน รวมถึงหน่วยงานราชการต่างๆ ส่งผลให้มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นต่อเดือนเฉลี่ย 30-40 ราย จากเดิมในสถานการณ์ปกติที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 10 รายต่อเดือน แต่ยอดสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ก็ไม่สูงเท่ากับกลุ่มลูกค้าโรงแรมและรีสอร์ท

โดยยอดขายเดือนมกราคมจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2564 เมื่อเทียบกับปี 2563 ยอดขายลดลง 10 % โดยลดลงจากปีก่อนในไตรมาสแรกเท่านั้น ส่วนเดือนเมษายนจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2654 ทำยอดขายดีขึ้นกว่าปีก่อนเล็กน้อย 1% โดยในปี 2564 กลุ่มอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำความสะอาดเพื่อป้องกันโควิด   ( Housekeeping Accessories ) เช่น ที่จ่ายเจลแอลกอฮอล์อัตโนมัติ  ชุดพนักงานฉีดพ่น เครื่องฉีดพ่นและน้ำยาตัวฉีดพื้นผิว สามารถสร้างยอดขายออนไลน์และออฟไลน์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สามารถเพิ่มยอดขายใน 11 เดือนแรก โตกว่า 100%  ขณะที่เจลแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ ยังคงทำยอดขายได้ตามเป้า แต่ยอดไม่สูงเท่ากับปี 2563 ที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงแรก

ทั้งนี้ เมื่อรัฐบาลทดลองเปิดประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยใช้จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง หรือ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นั้น PRAPAT ได้เข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมเปิดเมือง พร้อมจัดทำแผนการตลาดและโปรโมชันต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ภายใต้แคมเปญ "100X100 ฝ่าวิกฤตโควิด-19" ให้กับลูกค้าโรงแรม เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพัก โดยพบว่ายอดขายในช่วงดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก

แต่ทันที ที่รัฐบาลเริ่มคลายล็อกดาวน์และประกาศเปิดประเทศให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วจาก 45 ประเทศและเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เดินทางเข้าประเทศไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ส่งผลให้กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆทั้งในกรุงเทพมหานครและภูมิภาค ซึ่งเป็นฐานลูกค้าเดิมของบริษัท ทยอยกลับมาเปิดกิจการปกติเพิ่มขึ้น ทำให้ยอดสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในกลุ่ม PRAPAT เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีลูกค้าใหม่เริ่มทยอยติดต่อเข้ามา นับเป็นสัญญาณบวกและส่งผลดีต่อธุรกิจของ PRAPAT ในไตรมาสสุดท้ายปี 2564

สำหรับการกำหนดเป้าหมายการตลาดช่วงเปิดประเทศและในปี 2565 แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ เป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยแผนระยะสั้น ได้เริ่มดำเนินการแล้ว มีระยะเวลา 2 เดือนก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ ลุยการตลาดเชิงรุก พร้อมอัดแคมเปญโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์  โดยทีมเซลล์จะเข้าไปพบกับลูกค้าเดิม พร้อมให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ ให้บริการและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ต่างๆให้ฟรี โดยยังไม่แนะนำให้ซื้อผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์ใดๆเพิ่มในช่วงนี้  ซึ่งพบว่าลูกค้ากลุ่มนี้ทยอยกลับมาเปิดกิจการตามปกติแล้วประมาณ 70-80 %  นับเป็นกลยุทธ์การขายที่ก่อเกิด 'ภารกิจผูกผัน' กับลูกค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเร่งเดินหน้าหาลูกค้าใหม่ โดยใช้กลยุทธเดียวกัน  ส่วนแผนระยะกลางและแผนระยะยาวจะสอดคล้องกัน กำหนดเริ่มดำเนินการในปี 2565 เป็นต้นไป โดยเน้นขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ พร้อมเพิ่มยอดขายอุปกรณ์เครื่องจักรและการบริการ ให้มียอดเท่ากับกลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์ หลังเกิดวิกฤตโควิด-19 ผู้ประกอบการต่างลดจำนวนพนักงานลง โดยหันมาใช้เครื่องจักรแทนแรงงานมากขึ้น เพื่อลดการสัมผัสป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งประหยัดงบประมาณขององค์กร    นอกจากนี้ ยังทดลองนำร่องให้ทีมช่างที่ออกไปให้บริการกับลูกค้า ทดลองเป็นเซลล์ เปิดการขายด้วยตัวเอง หากลูกค้าสนใจสั่งสินค้าในกลุ่มของบริษัท PRAPAT เพิ่มเติม รวมทั้งจัดทำแคมเปญโปรโมชั่นส่งเสริมการขายตลาดออนไลน์และออฟไลน์เพิ่มขึ้น โดยยังเน้นการให้บริการอย่างเต็มที่หลังการขายเต็มรูปแบบ เมื่อลูกค้ามีปัญหาเกิดขึ้น

สำหรับแผนรุกตลาดต่างประเทศปี 2565 จะไปร่วมทำกิจการร่วมค้า (Joint Venture) กับตัวแทนจัดจำหน่ายเดิมที่ทำธุรกิจร่วมกันมากว่า 10 ปี ที่ประเทศเวียดนาม ณ นครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและเกาะฟู้ก๊วก เพื่อขยายตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อให้กว้างขึ้น  ส่วนปี 2566 จะมุ่งเน้นสร้างการเติบโตตลาดประเทศอินโดนีเซีย หนึ่งประเทศที่เนื้อหอมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  รวมทั้งเข้าไปลงทุนและตั้งโรงงานในประเทศศรีลังกา ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทยมายาวนาน ปัจจุบันมีนโยบายส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในประเทศศรีลังกามากขึ้น โดยหวังผลการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันจากการลดภาษีนำเข้า  นับเป็นแนวทางการเจาะตลาดเอเชียใต้และขยายตลาดใหม่ไปยังประเทศอินเดีย บังกลาเทศและมัลดีฟส์ในอนาคต  รวมทั้งเดินหน้าขยายตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ ภายในปี 2567

"หลังภาครัฐเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมเปิดประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชาติ บริษัท คาดการณ์ว่ารายได้ในปี 2564 จะกลับมาฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 4และเติบโตขึ้นต่อเนื่องในภาพรวมปี 2565 " นายสุกานต์ กล่าว

ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ