ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารกรุงเทพที่ 'BBB' และ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

พฤหัส ๐๒ ธันวาคม ๒๐๒๑ ๑๐:๑๑
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ที่ 'BBB' และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ พร้อมกันนี้ฟิทช์ได้ยกเลิกอันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของธนาคาร เนื่องจากอันดับเครดิตดังกล่าวมิได้มีนัยสำคัญเพียงพอในการติดตามวิเคราะห์อีกต่อไป หลังจากที่มีการปรับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิต เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศหลักเกณฑ์ใหม่นี้ ฟิทช์ให้อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล (Government Support Rating: GSR) แก่ BBL ที่ 'bbb'

รายละเอียดอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศของ BBL มีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากทั้งอันดับเครดิตสนับสนุนจากทางรัฐบาล และความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวธนาคารเอง ซึ่งสะท้อนโดยอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) นอกจากนี้อันดับเครดิตภายในประเทศของ BBL ยังรวมการพิจารณาถึงโครงสร้างเครดิตของธนาคารในเชิงเปรียบเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับในประเทศ

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ BBL ได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวนับเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิของธนาคาร

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BBL รวมการพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานของประเทศไทยที่ยังคงมีความท้าทาย โดยฟิทช์ให้ระดับคะแนนที่ 'bbb' ทั้งนี้ระดับคะแนนตามเกณฑ์ของฟิทช์ (implied factor score) สำหรับสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานของธนาคารไทยอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกลุ่ม 'bb' แต่ฟิทช์ได้มีการปรับเพิ่มคะแนนโดยใช้อันดับเครดิตของประเทศไทยที่ 'BBB+' เป็นปัจจัยในการพิจารณาปรับคะแนน ฟิทช์เชื่อว่าในระยะปานกลางรัฐบาลจะสนับสนุนเสถียรภาพของตลาดการเงินและช่วยให้ธนาคารสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีกำไรและยั่งยืน ฟิทช์คาดว่าสภาพเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2565 โดยอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ที่ 4.8% ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของธนาคาร

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BBL ยังได้สะท้อนถึงโครงสร้างธุรกิจและความสามารถในการแข่งขันในฐานะที่เป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งสะท้อนในระดับคะแนนด้านโครงสร้างทางธุรกิจที่ 'bbb+' ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากเครือข่ายทางธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่งของ BBL การดำเนินธุรกิจตามแผนได้อย่างสม่ำเสมอ และฐานลูกค้าที่หลากหลายซึ่งช่วยสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน BBL เป็นธนาคารไทยเพียงแห่งเดียวที่มีการดำเนินงานในต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญซึ่งช่วยสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ของธนาคาร จุดแข็งของธนาคารในการให้บริการสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ช่วยส่งเสริมให้ระดับคะแนนสำหรับโครงสร้างความเสี่ยงของธนาคารอยู่ที่ 'bbb' ซึ่งสะท้อนว่าการยอมรับความเสี่ยงของธนาคารนั้นอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในการดำเนินงาน

ฟิทช์ให้คะแนนสำหรับคุณภาพสินทรัพย์ของ BBL อยู่ในระดับ 'bbb-' แนวโน้มเป็นลบ เนื่องจากอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของ BBL ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระดับก่อนเกิดโรคระบาดและอยู่ที่ 4.4% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 และฟิทช์คาดว่าจะปรับตัวขึ้นอีกในปีหน้า อย่างไรก็ตามธนาคารมีระดับสำรองหนี้สูญที่สูงมาก โดยยังคงรักษาอัตราส่วนสำรองหนี้สูญและสงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพไว้ที่ 190% (สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภาคธนาคารที่ 150% ณ สิ้นเดือนกันยายนปี 2564) ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการรองรับความเสี่ยงจากการปรับตัวแย่ลงของอัตราการผิดนัดชำระหนี้

ฟิทช์ให้คะแนนสำหรับรายได้และการทำกำไรของ BBL ที่ระดับ 'bbb-' แนวโน้มเป็นลบ ซึ่งสะท้อนมุมมองของฟิทช์ว่าระดับคะแนนตามเกณฑ์ของฟิทช์ (implied factor score) อาจลดลงไปอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกลุ่ม 'bb' ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล็กน้อยจากปี 2563 แต่ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำที่ 1.2% สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2564 โดยกำไรของ BBL ได้รับแรงกดดันมาจากสภาพแวดล้อมดอกเบี้ยที่ต่ำ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้าและต้นทุนเครดิตที่ยังคงสูง

อัตราส่วนเงินกองทุนของ BBL ได้ปรับตัวลดลงตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการธนาคาร Permata Tbk ของอินโดนีเซียในเดือนพฤษภาคม 2563 โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) อยู่ที่ 15.3% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 อย่างไรก็ตาม BBL มีการจัดการเงินกองทุนอย่างระมัดระวังมาอย่างต่อเนื่องและสามารถรักษาอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของให้อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภาคการธนาคาร ฟิทช์ให้คะแนนสำหรับฐานะเงินทุนและระดับหนี้สินที่ 'bbb+' เนื่องจากฟิทช์คาดว่าในระยะกลางธนาคารจะสามารถเพิ่มอัตราส่วน CET1 ให้กลับขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงกว่าธนาคารในกลุ่มเดียวกัน ด้วยกำไรสะสม (internal capital generation) เช่นเดียวกันกับธนาคารอื่น BBL ใช้วิธีมาตรฐานในการคำนวณสินทรัพย์เสี่ยง (standardized approach)

คะแนนสำหรับการระดมทุนและสภาพคล่องของธนาคารที่ 'bbb+' ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากเครือข่ายทางธุรกิจในด้านเงินฝากที่แข็งแกร่ง และธนาคารได้ประโยชน์จากเงินฝากที่ไหลเข้าในช่วงที่ตลาดการเงินมีความผันผวนอันเกิดจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของธนาคารยังคงต่ำกว่าธนาคารอื่นและอยู่ที่ 81.0% ณ สิ้นเดือนกันยายนปี 2564 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของภาคการธนาคารที่ 94.1% BBL ยังคงรักษาระดับการถือครองสินทรัพย์สภาพคล่องสูงอย่างต่อเนื่องโดยมีอัตราส่วนการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง (LCR) ที่ 283% ในไตรมาส 2 ปี 2564

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล
ฟิทช์พิจารณาอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลจากการมองว่า BBL มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสสูงที่รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนแก่ธนาคาร BBL มีประวัติยาวนานในฐานะหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินฝากที่ประมาณ 18% อีกทั้งธนาคารได้รับการกำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทยให้เป็น 1 ใน 6 ธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบภายในประเทศ (D-SIB) ซึ่งสะท้อนถึงขนาดและระดับความสัมพันธ์ต่อระบบการเงินในประเทศ นอกจากนี้อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลยังได้พิจารณาถึงความสามารถของรัฐบาลไทยที่จะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารโดยสะท้อนในอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของประเทศไทยที่ 'BBB+'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ฟิทช์จัดอันดับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของ BBL ที่ระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตอ้างอิง (ซึ่งคืออันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน) อยู่ 2 อันดับ เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) ที่มีสูงกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ ทั้งนี้ไม่ได้มีการลดทอนอันดับเครดิตเพิ่มเติมเนื่องจากข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่ได้มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนในระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) ซึ่งอันดับเครดิตของตราสารและจำนวนอันดับเครดิตที่ลดทอนจากอันดับเครดิตอ้างอิงสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของฟิทช์ในการจัดอันดับเครดิตตราสารประเภทดังกล่าว

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
การปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินและอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลพร้อมกันจะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิถูกปรับลดอันดับเช่นกัน อันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารจะได้รับการปรับลดอันดับเป็น 'AA(tha)' หากฟิทช์มองว่าโครงสร้างเครดิตของธนาคารปรับตัวอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับ

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารอาจถูกปรับลดลงเป็น 'bbb-' หากธนาคารมีฐานะทางการเงินที่อ่อนแอลงมากกว่าที่ฟิทช์คาด ซึ่งอาจสะท้อนได้โดยการปรับลดคะแนนของปัจจัยต่างๆ ที่ใช้พิจารณาอันดับเครดิต รวมถึงคะแนนสำหรับสภาพแวดล้อมในการดำเนินงาน ซึ่งอาจเกิดจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้ากว่าคาด หรือตำแหน่งทางการตลาดของธนาคารอ่อนแอลงจนไม่สามารถมีผลการดำเนินงานที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในการดำเนินงาน และ/หรือ มีการยอมรับความเสี่ยงที่มากขึ้นโดยที่ไม่ได้มีปัจจัยบรรเทาความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยแรงกดดันดังกล่าวอาจบ่งชี้ได้จากการเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่สูงกว่า 6% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง ประกอบกับธนาคารมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่ด้อยลง เช่น มีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของที่ต่ำกว่า 13 % และมีอัตราส่วนสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ต่ำกว่า 120% และไม่สามารถรักษาระดับอัตรากำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ระดับสูงกว่า 1.5%

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล
อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลอาจถูกปรับลดอันดับหากฟิทช์เชื่อว่าความสามารถที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารนั้นลดลง เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยถูกปรับลดอันดับ นอกจากนี้การปรับลดอันดับเครดิตยังอาจเกิดขึ้นได้หากฟิทช์เชื่อว่าโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ BBL ลดลง เช่น จากการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับความสำคัญของธนาคารที่มีต่อระบบ อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยที่โอกาสที่ BBL จะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลจะปรับตัวลดลงในระยะปานกลาง

อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
การปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารจะส่งผลให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ BBL ได้รับการปรับลดอันดับ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ BBL อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลหรืออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินได้รับการปรับเพิ่มอันดับ ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศของ BBL ได้รวมการพิจารณาถึงโครงสร้างอันดับเครดิตของธนาคารเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BBL อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับเป็น 'bbb+' หากอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญของธนาคารปรับตัวดีขึ้นมาสอดคล้องกับธนาคารอื่นที่อยู่ในสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่คล้ายกัน ซึ่งอาจเกิดจากโครงสร้างทางธุรกิจที่ทำให้ผลการดำเนินงานปรับตัวดีกว่าภาคธนาคารอย่างต่อเนื่อง และอาจได้รับปัจจัยผลักดันจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ดีและอาจแสดงให้เห็นโดยอัตราส่วนสำคัญทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การรักษาอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่ระดับต่ำกว่า 3% และอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ปรับตัวสูงกว่า 2.5% (ณ สิ้นงวด 9 เดือนปี 2564: 1.2%) โดยที่ยังคงความสามารถในการรองรับความเสี่ยง เช่น การมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของที่สูงกว่า 16%

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล
อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยได้รับการปรับเพิ่ม ซึ่งอาจบ่งชี้ได้ว่ารัฐบาลมีความสามารถเพิ่มขึ้นในการสนับสนุนธนาคารที่มีความสำคัญต่อระบบการเงินในประเทศรวมถึง BBL อย่างไรก็ตามการพิจารณาอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลต้องคำนึงถึงการที่โอกาสในการให้การสนับสนุนธนาคารว่าจะยังคงอยู่ในระดับเดิม ทั้งนี้หากอันดับเครดิตของประเทศไทยไม่มีการเปลี่ยนแปลง อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ BBL ก็ไม่น่าที่จะเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ BBL จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตอ้างอิงซึ่งคืออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินได้รับการปรับเพิ่มอันดับ

การปรับคะแนนของปัจจัยในการพิจารณาอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
คะแนนที่ให้แก่ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ 'bbb' อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 'bb' เนื่องจากการปรับเพิ่มคะแนนด้วยปัจจัยด้าน 'อันดับเครดิตของประเทศ'

คะแนนที่ให้แก่ปัจจัยด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ 'bbb-' อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 'bb' เนื่องจากการปรับเพิ่มคะแนนด้วยปัจจัยด้าน 'หลักประกันและระดับสำรองหนี้สูญ'

อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ BBL มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตสากลของประเทศไทย

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตามสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com/esg

BBL:
รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้

  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว คงอันดับที่ 'BBB'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ 'F2'
  • อันดับความเข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ 'bbb'
  • อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล ให้อันดับที่ 'bbb'
  • อันดับเครดิตสนับสนุน ยกเลิกอันดับเครดิต
  • อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ ยกเลิกอันดับเครดิต
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ 'AA+(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ 'F1+(tha)'
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ 'BBB'
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิคงอันดับที่ 'BB+'

ที่มา: ฟิทช์ เรทติ้งส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version