มันฝรั่งเป็นแหล่งอาหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก แต่เกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งมักเข้าไม่ถึงหัวพันธุ์มันฝรั่งที่มีคุณภาพ ทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญและมีความผันผวนมากขึ้น การผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่งแบบดั้งเดิมมีต้นทุนสูง ทั้งยังจำกัดการเก็บเกี่ยวเพียง 1-2 ครั้งต่อปี และมีแนวโน้มว่าจะได้รับผลกระทบจากโรค สภาพอากาศ และภูมิอากาศ ด้วยเหตุนี้ หัวพันธุ์มันฝรั่งที่ได้รับการรับรองคุณภาพดีและปลอดโรคจึงมีไม่ถึง 10% ทั่วโลก
บริษัท EGG ได้พัฒนาแพลตฟอร์มแรกของโลกที่ประสบผลสำเร็จในการผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่งขนาดเล็กคุณภาพสูงในห้องปฏิบัติการ (Microtuber) ในระดับพาณิชย์ โดย EGG ใช้เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเพื่อผลิต Microtuber ที่ปลอดโรคในปริมาณมากและเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปีในโรงงานผลิตที่มีความปลอดภัยทางชีวภาพ จากนั้น Microtuber จะถูกนำไปปลูกในไร่โดยตรงโดยใช้เครื่องจักร เพื่อผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่งด้วยต้นทุนถูกลงมาก ผลผลิตเพิ่มขึ้นมาก และใช้เวลาน้อยลงมากเมื่อเทียบกับวิธีการทั่ว ๆ ไป
ความก้าวหน้าที่พลิกวงการนี้ได้รับการยกย่องเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดย EGG ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Golden Innovation Award จาก PotatoEurope จากนวัตกรรมของบริษัทและผลกระทบเชิงบวกอย่างกว้างขวางในตลาดมันฝรั่ง
คิมมินซู ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของ ADB Ventures กล่าวว่า "EGG เป็นบริษัทแรกที่ประสบผลสำเร็จในการผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่งเชิงพาณิชย์แบบ "Lab to Farm" ในระดับโลก เราเชื่อว่าเทคโนโลยี Microtuber ของ EGG สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งและผู้แปรรูปมันฝรั่ง ด้วยการทำให้พืชผลโตเร็วขึ้น มีคุณภาพดีขึ้น และราคาถูกลง ทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและในตลาดมันฝรั่งทั่วโลกที่มีมูลค่า 1.44 แสนล้านดอลลาร์"
ก่อนหน้านี้ EGG ได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตและผู้แปรรูปมันฝรั่งรายใหญ่ในจีนและอเมริกาเหนือ และในตอนนี้ บริษัทได้อาศัยความร่วมมือกับ ADB Ventures เพื่อขยายธุรกิจไปสู่ตลาดกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยตั้งเป้าผลิตมันฝรั่งปลอดโรคกว่า 6 ล้านตัน พร้อมกับกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 1.8 ล้านตันออกจากการปลูกมันฝรั่งภายในปี 2568 ซึ่งเทียบเท่ากับการลดจำนวนรถยนต์ 900,000 คันบนท้องถนนในหนึ่งปี
ชินกีจุน ซีอีโอของ EGG กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีที่ ADB Ventures เชื่อมั่นในเทคโนโลยี Microtuber ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา ซึ่งทำให้เรามีแรงผลักดันใหม่ในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและยกระดับความมั่นคงทางอาหารทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก"
นอกจากนี้ EGG จะใช้เงินทุนที่ได้รับในการพัฒนาเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันสำหรับพืชสำคัญชนิดอื่น ๆ เช่น มันเทศ มันสำปะหลัง หัวหอม และกระเทียม โดยเป้าหมายสูงสุดของบริษัทคือการขยายโซลูชันไปทั่วโลก และด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงกำลังวางแผนขยายธุรกิจเพิ่มเติมไปยังตลาดต่าง ๆ รวมถึงยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียกลาง