ที่ผ่านมาคิดว่าน้องๆหรือทุกๆคน คงต้องเคยพบเห็นความสำเร็จของคนในครอบครัว แล้วทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจ และมีความฝันว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องประสบความสำเร็จแบบนี้บ้าง เฉกเช่นเดียวกับคนๆหนึ่ง ที่วันนี้จะพาไปทำความรู้จักและพูดคุยกับ ปกรณ์ ฉลวยศรี (ก๊อต) ว่า เพราะเหตุใดจึงเลือกเรียนคณะนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ก๊อต : สวัสดีทุกๆคนครับ ผมก๊อต ปกรณ์ ฉลวยศรี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วันนี้ผมจะขอมาแชร์ประสบการณ์ให้กับน้องๆเพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจในการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษากันนะครับ
ก๊อต : เล่าว่า ก่อนตัดสินใจเลือกเรียน และค้นหาตัวเองเจอ ผมก็ทำอะไรมาหลายอย่าง อันที่จริงกว่าผมจะเจอสิ่งที่ชอบก็ลองมาหลายอย่างมากครับ ช่วง ม.ปลาย เคยเป็นช่างภาพให้บริษัทจีน ถ่ายงานที่โรงเรียน ไปลองเรียนพิเศษฟิสิกส์ดาราศาสตร์เบื้องต้นและบัญชี แต่คุณพ่อบอกผมเสมอว่า ต้องรู้ว่าเราชอบอะไรและมันมีจุดไหนที่ดีหรือไม่ดี คือผมเชื่อเสมอว่าทุกอย่างมีด้านที่ไม่ดี และทำให้เราเบื่อได้เสมอ แต่ถ้าเราเจอในสิ่งที่ชอบ ความน่าเบื่อตรงนั้นจะเป็นสิ่งที่เรารับมันได้ และทำให้เรามีความสุขในทุกๆ วันมากกว่า
และด้วยเหตุผลส่วนตัว เพราะผมเป็นคนชอบอ่าน จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เลือกเรียนคณะนี้ ด้วยความที่ผมเรียนจบจาก โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ เป็นคนที่เรียนกลางๆ เกรดไม่ได้สูงมาก เพราะที่บ้านไม่ได้ซีเรียสเรื่องการเรียน คือท่านอยากให้ทำในสิ่งที่เราชอบ ช่วงมัธยมผมเลยตามหาสิ่งที่ชอบมากกว่าจดจ่อกับเรื่องเรียนเรื่องเดียว คือเราชอบอยู่คนเดียวเลยไม่ค่อยมีใครรู้ว่าปกติเป็นคนชอบอ่านหนังสือ อาจเป็นเพราะเราก็ไม่ชอบอ่านต่อหน้าคนเยอะๆ ตอนอ่านข้างนอกบางทีจะเขินอายแปลกดีเหมือนกัน (หัวเราะ) ปกติจะอ่านหนังสือคนเดียวครับ เป็นเรื่องอะไรก็ได้แต่ส่วนใหญ่จะอ่านนิยายประเภท พรรณนาอารมณ์ และด้วยความที่ผมชอบอ่านหนังสือและคุณพ่อสนับสนุนให้เรียนกฎหมาย ผมจึงเลือกที่จะเรียนคณะนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมครับ แถมที่บ้านผมเป็นข้าราชการเกือบทุกคนครับและทุกคนมีความรู้ด้านกฎหมายทุกคนครับ โดยเฉพาะคุณอาที่เป็นผู้พิพากษาทั้ง 2 ท่านครับ พอที่บ้านรู้ว่าผมเรียนนิติ ทุกคนดีใจมากครับ และค่อยซัพพอร์ตผมอยู่เสมอมาครับ
ก๊อต : เล่าต่อว่า อีกเหตุผลที่ทำให้เลือกเรียนนิติที่นี่ คือคุณอาผมเรียนจบที่ศรีปทุมครับ ปัจจุบันท่านเป็นผู้พิพากษา พอคุณอารู้ว่าผมเรียนนิติท่านก็ดีใจมากครับ ท่านแนะนำผมเยอะมากทั้งเรื่องเรียน หนังสือวิธีการเขียน รวมถึงเล่าประสบการณ์ต่างๆ ให้ผมฟังเยอะมากครับ ความรู้สึกที่ได้เป็นรุ่นน้องของท่าน คงเป็นความรู้สึกที่ว่าการเรียนนิติที่ ม.ศรีปทุม จะทำให้ผมประสบความสำเร็จได้เหมือนคุณอาครับ
และสิ่งสำคัญในการเรียนนิติฯ คือต้องมีความชอบและอดทน ผมเชื่อว่าการเรียน เรื่องสถาบันไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเรียนนิติสำหรับผมคือ ความพร้อม ความอดทน และต้องรักในสิ่งที่ทำ ผมเจออาจารย์ที่ดีหลายท่านจากที่นี่ ส่วนตัวผมเรียนจบมาจากนานาชาติทำให้การใช้ภาษาไทยของผมไม่แข็งแรงมากๆ (ช่วงปี1 ต้องอ่านประมวล และคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ และต้องเรียนภาษาไทยเพิ่มด้วย) แต่ผมเจออาจารย์และรุ่นพี่ที่พร้อมช่วยผมเสมอ และเราสามารถเข้าไปปรึกษาอาจารย์ได้ตลอดเวลาเลยครับ
และอีกสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับผมคือ กำลังใจจากครอบครัว ทำให้ผมเรียนอย่างมีความสุข ด้วยความที่คุณพ่อไม่ค่อยมีเวลาว่างครับ ทำให้เวลาที่อยู่ด้วยกันมีน้อยมากๆ หนึ่งเดือนอาจจะไม่ได้เจอกันเลย แต่คุณพ่อเป็นคนที่รับฟังผมตลอดครับ ช่วงปีหนึ่ง ผมเครียดมากเรื่องการเรียน แต่ท่านบอกเสมอว่า อยากให้ผมทำให้เต็มที่ เกรดไม่ใช่สิ่งที่ท่านคาดหวัง ท่านแค่อยากเห็นผมมีความสุขในสิ่งที่ผมทำ คำพูดนั้นทำให้ผมเรียนอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน และทำให้ผมมีกำลังใจครับ
สำหรับการเรียนอะไร ให้มีประสิทธิภาพ เราต้องเข้าใจไม่ใช่จดจำ ตอนเข้ามาเรียนแรกๆ สิ่งที่เป็นอุปสรรคของผมคงเป็นเรื่องการปรับตัวครับ เพราะสังคมช่วง ม.ปลาย ของผมค่อนข้างแตกต่างจากมหาลัย และการอ่านหนังสือภาษาไทยเป็นภาษากฎหมาย ก็เป็นสิ่งที่ผมยังคงฝึกถึงทุกวันนี้ครับ ช่วงปี 1 ผมนั่งคัดคำศัพท์ต่างๆ ในช่วงที่ผมว่างครับ ผมเลยมองว่าสิ่งที่สำคัญในการเรียนคือความพร้อมครับ อยากบอกน้องๆ ว่าไม่มีใครโง่หรือฉลาดหรอกครับ อย่าเอาคำพวกนั้นมาตีกรอบตัวเองไว้ หากเราเรียนไม่รู้เรื่องให้ลองอ่านซ้ำแล้วจดสิ่งที่ไม่เข้าใจไว้ครับ แล้วเอาสิ่งเหล่านั้นไปถามอาจารย์ที่คณะ หากอ่านเพื่อจำเราจะไม่สามารถเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนที่ดีคือความเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้
ส่วนงานอดิเรกของผม ผมมีงานอดิเรกคือการอ่าน ผมชอบอ่านนิยายมากๆ ครับ ผมรู้สึกถึงความสวยงามของภาษาชอบอ่านนิยายที่ใช้ภาษาที่สวยงามหรือภาษาที่เป็นทางการครับ อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมชอบการอ่าน คำอธิบายกฎหมายต่างๆ ซึ่งเป็นอะไรที่สนุกมากที่ผมได้เห็นการใช้ภาษาใหม่ๆ หรือได้เจอคำศัพท์ใหม่ๆ ครับ สำหรับอนาคตภายหลังสำเร็จการศึกษา ผมอยากทำอาชีพที่สามารถช่วยคนอื่นได้ครับ แต่ถ้าพูดถึงเส้นทางอนาคต ผมอยากเป็นผู้พิพากษาเหมือนคุณอาครับ แม้จะเป็นเส้นทางที่ยาก แต่เพราะที่บ้านที่คอยสนับสนุนผมอยู่ตลอด เส้นทางข้างหน้าเป็นไปได้ผมก็อยากประสบความสำเร็จในด้านนี้ครับ อีกความฝันคืออยากเป็นอาจารสอนที่มหาลัย หรือเนติบัณฑิตครับ แต่จริงๆ ก็อยากมีหนังสือเป็นของตัวเองสักเล่มนะครับ
สุดท้ายขอฝากถึงน้องๆที่อยากเรียนนิติศาสตร์ เรียนนิติฯสิ่งที่สำคัญคือมีสถาบันที่มีอาจารย์ที่สามารถให้คำปรึกษาได้ตลอด นิติศาสตร์ที่ ม.ศรีปทุม เป็นคณะที่อาจารย์สามารถดูแลได้ทั่วถึง และตอนนี้ผมอยู่ฝ่ายวิชาการด้วยครับ ถ้าน้องๆ คนไหนมีปัญหาอะไรก็สามารถบอกได้ ผมยินดีช่วยเหลือได้ตลอดครับ
จบแล้วคร๊าฟ! น้องๆ ทุกคนคงได้แนวทาง ประสบการณ์และข้อคิดดีๆ ที่ได้จากครอบครัวที่แสนอบอุ่นของก๊อต ไม่ว่าจะคุณพ่อที่ให้ลูกชายเลือกเรียนในสิ่งที่ทำให้ตนเองมีความสุข คุณอาที่เป็นตัวอย่างและความภาคภูมิใจของก๊อต และที่สำคัญคือก๊อตที่รู้จักความชอบ สิ่งที่รัก และได้เลือกเรียนในสิ่งที่จะทำให้ตนเองมีความสุขตลอดไป และในโอกาสนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้ก๊อตประสบความสำเร็จดังที่ตั้งใจไว้นะครับ
ที่มา: มหาวิทยาลัยศรีปทุม