บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประเมินผ่อนคลายความกังวลจาก Omicron ไทยยังมีแรงขับเคลื่อนด้านอุปสงค์ ส่งสัญญาณบวกต่อธุรกิจ

จันทร์ ๑๓ ธันวาคม ๒๐๒๑ ๑๔:๑๖
นายธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์ นักกลยุทธ์เศรษฐศาสตร์มหภาค บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ให้ความเห็นว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ผ่อนคลายลงเรื่อยๆหลัง ดร.แอนโทนี ฟาวชี ที่ระบุว่า จะไม่ส่งผลให้อาการป่วยรุนแรงหากเทียบกับสายพันธุ์ Delta สอดคล้องกับตัวเลขสัดส่วนผู้ป่วยหนัก ในประเทศแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นประเทศแรกที่พบการแพร่ระบาดและมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ธ.ค.) คิดเป็น 31% เทียบกับสัดส่วนผู้ป่วยหนักช่วงการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ Delta ที่อยู่ที่ประมาณ 67%

สำหรับเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน พ.ย. ยังสูง นำไปสู่การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้น โดยเงินเฟ้อ (CPI) เดือน พ.ย. ของสหรัฐฯ +6.8% YoY และ +0.5% MoM จากราคาพลังงาน (Energy) ที่ยังสูงต่อเนื่อง +33.3% YoY และ +3.5% MoM เป็นปัจจัยที่ยังสร้างความกังวลว่าอาจส่งผลลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (Stagflation) และนำไปสู่การปรับมุมมองของตลาด ให้น้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นในการประชุม FOMC วันที่ 14-15 ธ.ค. และจาก CME Fed Watch Tool ล่าสุดก็ให้น้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 1 ครั้ง ในการประชุมเดือน มิ.ย.ที่โอกาส 79.2%

ในทางกลับกันก็สะท้อนภาพที่แข็งแกร่งในหลายอุตสาหกรรม ถึงแม้ว่าเงินเฟ้อที่สูงจากราคาพลังงานซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักในภาคการผลิต จะเป็นปัจจัยถ่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่หากพิจารณาลงในรายละเอียดจะพบว่า มีแรงขับเคลื่อนด้านอุปสงค์ (Demand) กลับมาช่วยหนุนในหลายอุตสาหกรรม และอาจเป็นสัญญาณบวกต่อธุรกิจของไทยที่มีลักษณะเดียวกันหรือเกี่ยวข้องให้มีโอกาสฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญเช่นเดียวกัน นำโดย 1) ค่าตั๋วเครื่องบิน (Airline fares) +4.7% MoM 2) การใช้บริการขนส่ง (Transportation services) เร่งตัวมากที่สุดในรอบ 5 เดือน +0.7 MoM ซึ่งมาจาการปรับตัวขึ้นของ ค่าที่จอดรถ ค่าทางด่วน ค่าธรรมเนียมการใช้บริการขนส่งภายในเมือง (Intracity) สะท้อนความต้องการการใช้ชีวิตนอกบ้าน ท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอย การเดินทาง

สำหรับความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจน่าจะกลับมามีความชัดเจนมากขึ้น หลังความกังวลต่อปัจจัยลบต่างๆผ่อนคลายลง (ความเสี่ยง Omicron, ภาวะเงินเฟ้อจากด้านต้นทุน) หนุนให้หุ้นวัฎจักรกลับมามีความน่าสนใจ และเป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของกระแสเงินลงทุน มีโอกาสที่จะ Outperform ในภาวะที่ตลาดที่ยังมีความกังวลต่อภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นที่น่าจะเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม

Top Picks:

-KBANK TTB: "Rate Hike Shelter" ดอกเบี้ยขาขึ้นและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว                                                                                

-CPN: "Demand" การบริโภค การใช้ชีวิตนอกบ้าน เร่งตัวช่วง 4Q64

-SPRC: "Supply" อุปทานจากจีนตึงตัว กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้น                                                                                             

-WICE: "Inventory" ช่วงผู้ประกอบการ restocking inventory cycle

ที่มา: บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๑๗:๑๖ กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๑๗:๕๕ Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๑๗:๔๗ โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๑๗:๑๒ ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๑๗:๐๐ กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๑๖:๐๐ WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๑๖:๐๔ เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๑๖:๔๗ ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๑๖:๐๒ NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ