ข้อตกลงทางธุรกิจกับ พร็อพเทค ฟาร์ม ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนในเมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสมเนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยพร้อมสำหรับการฟื้นตัวในปีหน้าภายหลังการผ่อนปรนการชำระหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยและข้อจำกัดการเดินทางของรัฐบาลเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งคาดว่าจะเติบโตขึ้นร้อยละ 4 ในปีพ.ศ. 2565 การระดมทุนครั้งนี้ช่วยให้ ลาซูดี กลายเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัลในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วยการย้ายกระบวนการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์จากเดิมมาทำผ่านทางเว็บไซต์ https://www.lazudi.com ที่จะช่วยให้ผู้ซื้อบ้านสามารถเลือกบ้านที่ตรงตามต้องการได้อย่างง่ายดายและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ในขณะที่ฝ่ายผู้ขายมีโอกาสพบกับกลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อที่มีศักยภาพมากขึ้น
"ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีส่วนช่วยเร่งผลักดันให้ผู้บริโภคยอมรับในวิธีการดำเนินงานทางดิจิทัลที่ให้ข้อมูลมากขึ้นส่งผลให้การตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพาทัวร์สถานที่เสมือนจริงแบบ 360 องศา และสัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบดิจิทัลต่างล้วนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการซื้อขาย" นายคอสต้า ซาฟวา ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลาซูดี จำกัด กล่าว "ในตลาดที่พัฒนาแล้ว ผู้บริโภคสามารถดำเนินการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เต็มรูปแบบผ่านทางออนไลน์ และเราวางแผนที่จะนำเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันมาใช้ในประเทศไทยด้วยการพัฒนาเพิ่มเติมเป็นระยะ ๆ ในตลอดปีพ.ศ. 2565 โดยคาดว่าแพลตฟอร์มจะสมบูรณ์ครบวงจรภายในปีพ.ศ. 2566 เนื่องจากเราต้องการรวบรวมพันธมิตรทางธุรกิจในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียวกันเพื่ออำนวยความสะดวกแบบครบวงจรอย่างแท้จริงให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขายบ้าน" นายคอสต้ากล่าวเสริม
ตามหลักการของอีคอมเมิร์ซ แพลตฟอร์มบนระบบคลาวด์ของ ลาซูดี ทำงานให้กับผู้ซื้อ ผู้เช่า และตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การประกาศขาย และการทำการตลาดของอสังหาริมทรัพย์เป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ตลอดจนเพิ่มความโปร่งใสให้กับผู้ซื้อและผู้ขายในระหว่างขั้นตอนการทำธุรกรรมในขณะเดียวกันช่วยลดภาระด้านงานเอกสารและงานธุรการของในส่วน Back Office นับตั้งแต่บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2563 พันธมิตรตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ของ ลาซูดี ได้ทำธุรกรรมสินทรัพย์มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท เนื่องด้วยแพลตฟอร์มที่ได้รับการปรับปรุง ปัจจุบันพวกเขาสามารถทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์โดยเฉลี่ยเร็วขึ้นถึงหกเท่า อันเป็นผลมาจากการลดขั้นตอนของงานธุรการ การทำการตลาด และงานในส่วนของ Back Office ทำให้พวกเขาสามารถใช้เวลาอย่างมีคุณภาพและมอบบริการแบบเฉพาะบุคคลเพื่อดูแลลูกค้าของพวกเขาได้มากขึ้น
"พร็อพเทค ฟาร์ม คือการผสมผสานประสบการณ์ความเชี่ยวชาญทางด้านอสังหาริมทรัพย์และดิจิทัลเข้าด้วยกัน การร่วมลงทุนในธุรกิจด้านกิจการที่พร้อมจะพลิกโฉมภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทฯ กำลังมองหาพันธมิตรทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในอดีตอสังหาริมทรัพย์เป็นอุตสาหกรรมที่ก้าวสู่ความเป็นดิจิทัลค่อนข้างช้า แม้ว่าโซลูชั่นออนไลน์ที่มีอยู่ในปัจจุบันจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีจำนวนน้อยมากที่ถูกนำมาใช้ในประเทศไทยและถูกใช้อย่างไม่เต็มรูปแบบและเป็นในรูปแบบออฟไลน์เป็นหลัก ส่งผลให้มีงานธุรการค่อนข้างมากและไม่ค่อยแสดงความโปร่งใสแก่ผู้บริโภค การลงทุนของเราใน ลาซูดี มีเป้าหมายที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้กับทั้งตัวแทนอสังหาริมทรัพย์และผู้บริโภคโดยตรง" นายเฟรดริก เบิร์กแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง พร็อพเทค ฟาร์ม กล่าว
การร่วมลงทุนหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐได้หลั่งไหลเข้าสู่สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ (PropTech) ทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้เล็งเห็นศักยภาพมากมายในการเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการประเภทสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และการระดมทุนรอบใหม่นี้แสดงให้เห็นว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้รับความสนใจอย่างมาก
ที่มา: อิมเมจ อิมแพค