รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการป้องกันผักผลไม้นำเข้ากรณีการเปิดให้บริการรถไฟลาว-จีนนั้น ในช่วงท้ายของการประชุม Fruit Board ซึ่งนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่ประธานการประชุมแทน ได้มีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์การเปิดให้บริการรถไฟลาว-จีน จากข้อมูลของศุลกากรพบว่า มีการนำสินค้าผักจากจีนเข้ามาแล้ว 33 ตู้ บรรจุตู้ละ 20 ตัน ในสัปดาห์แรกของการเปิดเดินรถไฟเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีสินค้าจำนวนมากเข้ามาในประเทศไทย เนื่องจากการขนส่งจากจีนมาถึงไทยใช้เวลาเพียง 2 วัน ในการนี้ที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าผักและผลไม้ของด่านนำเข้า รวมทั้งศึกษาโอกาสและผลกระทบการขนส่งผักและผลไม้ทางราง (รถไฟ) ผ่าน 3 ประเทศ ไทย-ลาว-จีน เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าเกษตรจากต่างประเทศเข้ามาส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและภาคการเกษตรของไทย รวมทั้งกำชับให้เพิ่มการดูแลและอำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรไทยท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ในการส่งออกผลผลิตทางการเกษตรผ่านด่านส่งออก โดยเน้นย้ำความร่วมมือกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในการร่วมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรในเรื่องการเปิด-ปิดช่องทางด่านส่งออก ในสถานการณ์ไม่ปกติ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกร หากมีการปิดด่านใด ให้เตรียมแนวทางอำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรในการใช้บริการด่านใกล้เคียง เพื่อลดความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตร ป้องกันความเดือดร้อนที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในด้านการส่งออกผลไม้สำหรับฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้ ที่ประชุม Fruit Board ยังได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรไปพิจารณาตรวจสอบการถือครองที่ดินของเกษตรกรให้ถูกต้อง เพื่อพิจารณาการช่วยเหลือการตรวจรับรอง GAP ให้แก่เกษตรกร รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานเน้นสร้างการรับรู้ในเรื่องดังกล่าวให้กับเกษตรกรด้วย
ที่มา: กรมส่งเสริมการเกษตร