นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMR) ผู้นำด้านวิศวกรรมออกแบบและเชื่อมต่อระบบไอทีโซลูชั่น (System Integrator : SI) ครบวงจรรายแรกของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกจาก FTSE SET Index เข้าคำนวณในกลุ่ม Micro Cap ซึ่งเป็นดัชนีหลักทรัพย์ระดับนานาชาติ มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2564 ถือเป็นตอกย้ำให้เห็นว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไป นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจาก FTSE เป็นองค์กรที่ได้รับความน่าเชื่อถือระดับโลก ทั้งนี้ เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก หลังเข้าระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพิ่มโอกาสในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และได้รับการยอมรับจากคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับเกณฑ์ที่ FTSE นำมาใช้ในการคำนวณ และคัดเลือกหลักทรัพย์ที่จะถูกคำนวณรวมในดัชนี FTSE SET นั้นจะต้องผ่านเกณฑ์สภาพคล่องของจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขายรายวันในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 0.05% ของจำนวนหุ้นที่ซื้อขายได้ในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 10 เดือน จาก 12 เดือน ก่อนวันที่พิจารณาทบทวนรายชื่อดัชนีในแต่ละรอบ โดยต้องผ่านเกณฑ์การกระจายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยมากกว่า 15% ขึ้นไป
"การที่ AMR ได้รับคัดเลือกจาก FTSE SET Index เข้าคำนวณในกลุ่ม Micro Cap จะทำให้หุ้น AMR ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น และเป็นหุ้นที่อยู่ในโฟกัสของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ในเรื่องของปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ เรามั่นใจว่ามีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง โดยภาระหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกันมีกระแสเงินสดในมือที่พร้อมจะลงทุนได้ทันทีที่เห็นว่าเป็นโครงการที่มีศักยภาพในการสร้างกำไรและอัตราผลตอบแทนที่ดี"
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/64 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) อีกประมาณ 400-500 ล้านบาท อีกทั้งยังมีงานใหม่ที่รอลงนามเพิ่มอีก 600-700 ล้านบาท ผลักดัน Backlog สำหรับสิ้นปี 2564 อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 149.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% จากปีก่อน โดยเป็นผลจากความสามารถทำกำไรขั้นต้นที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น 29.6% จากอัตรา 22.4% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และยังสามารถลดต้นทุนคงที่ของธุรกิจลงได้ในอัตรา 2.5% เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
กรรมการผู้จัดการ AMR กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 40% หรือคิดเป็นมูลค่า 2,000-2,500 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าการรับรู้รายได้ธุรกิจงานประมูลจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังจากมีงานที่อั้นในปีนี้ออกมาจำนวนมาก โดยในปีหน้าบริษัทฯ เตรียมจะเข้าประมูลงานใหม่มูลค่าประมาณ 52,000 ล้านบาท ซึ่งคาดหวังจะได้รับงานใหม่ไม่ต่ำกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท อีกทั้งจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจที่มีรายได้ประจำและธุรกิจพลังงานมากขึ้น
นอกจากนี้ AMR ยังเตรียมงบลงทุนปีหน้าไว้ประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท สำหรับใช้ขยายการลงทุนโครงการใหม่ ๆ เช่น ธุรกิจพลังงานทดแทน การให้บริการเคเบิลคาร์เพื่อการท่องเที่ยว และระบบสาธารณูปโภค เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) สนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
ที่มา: เอเอ็มอาร์ เอเซีย