ทิสโก้แนะจับตา 3 ปัจจัยเสี่ยงกระหน่ำเศรษฐกิจปี 65 ชูตลาดหุ้นยุโรป - ญี่ปุ่นดาวเด่น สร้างรีเทิร์นเหนือสหรัฐฯ

อังคาร ๒๑ ธันวาคม ๒๐๒๑ ๑๑:๕๐
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้เศรษฐกิจโลกปี 2565 จะเผชิญกับ 3 ปัจจัยเสี่ยง คือ COVID-19 ระบาดยืดเยื้อ เงินเฟ้อสูง และนโยบายการเงินที่เข้มงวด ฉุดมูลค่าหุ้นทั่วโลก แต่คาดทั้งปีหุ้นยังให้ผลตอบแทนเป็นบวก พร้อมชูตลาดหุ้นยุโรปและญี่ปุ่นเด่นกว่าสหรัฐฯ และตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วน่าสนใจกว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr.Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่จะกดดันเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2565 มี 3 ปัจจัย คือ 1. ไวรัส COVID-19 ยังคงระบาดต่อเนื่องและยืดเยื้อ ประเด็นนี้เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเมื่อมีการระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดสูงและทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ในอังกฤษ และเดนมาร์ก ที่จำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นเท่าตัวในทุกสองวัน

"แม้ข้อมูลเบื้องต้นอาจชี้ว่าโอไมครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่เคยระบาดก่อนหน้านี้ แต่ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็อาจทำให้จำนวนผู้ป่วยหนักพุ่งขึ้นตามจนเกินกำลังของระบบสาธารณะสุข ซึ่งนับเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้ในปี 2565 หลายประเทศจำเป็นต้องกลับมาประกาศใช้มาตรการ Lockdown ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตของโลกและทำให้ปัญหาเงินเฟ้อยืดเยื้อต่อไปอีก" นายคมศรกล่าว

2.เงินเฟ้อทรงตัวในระดับสูงตลอดทั้งปี โดยสาเหตุหลักมาจากปัญหาด้านการผลิตที่ไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้เท่ากับช่วงก่อนที่ COVID-19 แพร่ระบาด เช่น ปัญหาการขาดแคลนแรงงานซึ่งถูกกระทบจากสังคมสูงวัย โดยในสหรัฐฯ มีแรงงานที่ถูกปลดในช่วง COVID-19 จำนวนมากถึงกว่า 3 ล้านคน เป็นแรงงานที่มีอายุมากกว่า 55 ปี ซึ่งส่วนใหญ่อาจตัดสินใจเกษียณอายุและไม่กลับสู่ตลาดแรงงานอีกแล้ว

นอกจากนั้น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงกระแส Deglobalization ยังส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลกในระยะยาว ในขณะที่ความพยามในการลดก๊าซเรือนกระจก ทำให้การลงทุนในแหล่งพลังงานฟอสซิลลดลงอย่างรวดเร็ว จนอาจทำให้ต้นทุนราคาพลังงานสูงขึ้นในอนาคตอีกด้วย

และปัจจัยที่ 3. นโยบายการเงินที่เข้มงวด ประเด็นนี้ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้คาดว่า ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางจะทำให้นโยบายการเงินมีแนวโน้มเข้มงวดขึ้นอย่างชัดเจนในปีหน้า โดย ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) น่าจะยุตินโยบายการเงินเชิงผ่อนคลาย (QE) ในไตรมาส 1/2565 และอาจเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในทันทีที่ QE ยุติลง ซึ่งสภาพคล่องที่ลดลงและดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นชัดเจน จะเป็นปัจจัยกดดันต่อมูลค่า (Valuation) ของตลาดหุ้นในปี 2565 โดยข้อมูลในอดีตชี้ว่าค่าอัตราราคาปิดต่อกำไร (P/E) ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P 500) จะลดลงเฉลี่ย 5% ในช่วง 2 - 3 เดือนหลังจากที่ Fed เริ่มขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก

นายคมศรกล่าวอีกว่า สำหรับภาพการลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ มองว่าไตรมาส 1/2565 จะเป็นช่วงที่เสี่ยงที่สุดสำหรับตลาดหุ้นในปี 2565 โดยมีปัจจัยกดดันจาก 1. ตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จากอุปสงค์ที่กลับสู่ภาวะปกติหลังแรงหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจหมดไป 2. ความเสี่ยงจากการระบาดของโอไมครอน และ 3. การยุตินโยบายการเงินเชิงผ่อนคลาย (QE) และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จาก 3 ประเด็นข้างต้นคาดว่าในไตรมาส 1/2565 ตลาดหุ้นทั่วโลกอาจปรับฐานประมาณ 5% แต่ยังคาดว่าสิ้นปี 2565 ตลาดหุ้นจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกตามการขยายตัวของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

หากลงลึกการลงทุนไปยังรายประเทศ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้มองว่า ตลาดหุ้นยุโรปและญี่ปุ่นจะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจาก 1. มูลค่าหุ้นที่ยังถูกกว่า และมีส่วนลด (Discount) ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับในอดีต และ 2. ความยืดหยุ่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจของยุโรปและญี่ปุ่นมีมากกว่าสหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับเงินเฟ้อที่สูง ขณะที่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) จะถูกกดดันจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น และให้ผลตอบแทนต่ำกว่าตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วโดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี

ที่มา: ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version