อธิบดี พช. เปิดการประชุมขับเคลื่อน SE การพัฒนากลไกขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากระดับประเทศ

จันทร์ ๒๗ ธันวาคม ๒๐๒๑ ๑๑:๓๑
นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนากลไกขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากระดับประเทศ โดยมีนายประวิช สุขุม เลขานุการร่วมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ประธานและกรรมการบริหารบริษัทประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) และเจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชนจาก 76 จังหวัด เข้าร่วมการประชุมฯ ณ ห้องประชุม The Portal Ballroom HALL 4 อิมแพค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

นายสมคิด จันทมฤก กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ และการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้ครอบคลุมทั้งประเทศ โดยให้ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการร่วมกับภาครัฐภายใต้คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ ดำเนินงานผ่านกลไกระดับจังหวัด โดยมีคณะกรรมการประสานและขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐประจำจังหวัด (คสป.) ได้ร่วมผลักดันให้เกิดการจัดตั้งบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด จำนวน 76 แห่ง และมีบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด เป็นพี่เลี้ยง เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐในระดับจังหวัดคู่ขนานกับ คสป. มีเป้าหมาย "สร้างรายได้ให้ชุมชน ประชาชนมีความสุข"

การประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนากลไกขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากระดับประเทศ วัตถุประสงค์ที่สำคัญในวันนี้ก็คือต้องการทบทวนบทบาทกลไกภาครัฐและกลไกของภาคเอกชนในระดับจังหวัด กลไกภาครัฐก็คือคณะกรรมการประสานและขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐประจำจังหวัด ภาคเอกชน คือ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งวันนี้ก็เชิญท่านพัฒนาการจังหวัด ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานและขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐประจำจังหวัด(คสป.) และ MD ในฐานะผู้จัดการบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด มาทบทวนบทบาทว่ากลไกในการขับเคลื่อนมีปัญหาอะไร มีข้อขัดข้องอะไร นี้คือการทบทวน และให้พิจารณากรอบแนวคิด พลังประชารัฐ 5 ภาคส่วนที่ต้องการการขับเคลื่อน ยังมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่ ซึ่งกลยุทธ์การขับเคลื่อน 1+3+5+76+1 ที่มีเป้าหมาย "สร้างรายได้ให้ชุมชน ประชาชนมีความสุข" ยังมีประสิทธิภาพหรือไม่ นี้คือสิ่งที่ต้องการทบทวน โดยมีความคาดหวังอยากเห็นกลไกภาครัฐ และกลไกภาคเอกชนสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีประสิทธิผล และเห็นแนวทาง กลยุทธ์การขับเคลื่อนที่ชัดเจน มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงาน ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายที่อย่างเห็นคือ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยแนวคิดวิสาหกิจเพื่อสังคมมีความยั่งยืน ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีรายได้เพิ่มขึ้น

ที่มา: อิมเมจ โซลูชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ