วิศวะมหิดล ร่วมกับม.เซี่ยงไฮ้เจียวทง และสมาคมไออีอีอีฯ เปิดอนาคตหุ่นยนต์การแพทย์ เจนเนอเรชั่นที่ 5

อังคาร ๐๔ มกราคม ๒๐๒๒ ๑๔:๔๔
ภายใต้โครงการ Reinventing University : Mahidol Medical Robotics Program คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง และสมาคม IEEE Robotics & Automation Society Thailand Chapter ผนึกความร่วมมือจัด งานสัมมนา : หุ่นยนต์การแพทย์ เจนเนอเรชั่นที่ 5 โดยมี ศ.นพ.บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี และ รศ.ดร.นภเรณู สัจจรักษ์ ธีระฐิติ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมเป็นประธานเปิดงานผ่านระบบออนไลน์
วิศวะมหิดล ร่วมกับม.เซี่ยงไฮ้เจียวทง และสมาคมไออีอีอีฯ เปิดอนาคตหุ่นยนต์การแพทย์ เจนเนอเรชั่นที่ 5

รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง โครงการ Reinventing University : Mahidol Medical Robotics Program คณะวิศวะมหิดลได้เดินหน้าจัดการสัมมนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์การแพทย์ (Medical Robotics Seminar) ร่วมกับมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่างต่อเนื่องเป็นซีรีส์ จากงานครั้งที่ 1 จัดร่วมกับ Imperial College London แห่งสหราชอาณาจักร ส่วนครั้งที่ 2 นี้เราจัดร่วมกับ Shanghai Joao Tong มหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าด้านวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน และในอนาคตอันใกล้จะจัดครั้งที่ 3 โดยร่วมกับ Johns Hopkins University ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้เพื่อเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้และสร้างเครือข่ายด้านหุ่นยนต์ทางการแพทย์ให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็งในระดับภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย

สำหรับภาพรวมและการเติบโตของงานวิจัยพัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ (Medical Robotics) ในประเทศไทย เริ่มในยุคบุกเบิกเมื่อ 20 ปีก่อนโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ก่อตั้งศูนย์วิจัย BARTLAB และได้สร้างทีมนักวิจัย นวัตกร และพัฒนาบุคลากรด้านหุ่นยนต์การแพทย์ขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับแพทย์ในโรงพยาบาลต่างๆ และสร้างผลงานนวัตกรรมเฮลท์เทคมาจนถึงปัจจุบัน เช่น หุ่นยนต์ผ่าตัดสมอง หุ่นยนต์ผ่าตัดกระดูกสันหลัง หุ่นยนต์ช่วยแพทย์อัจฉริยะ Telemedicine หุ่นยนต์ฟื้นฟูผู้ป่วย วัสดุทางการแพทย์ อุปกรณ์เฮลท์เทคเพื่อสุขภาพ อุปกรณ์ฝึกสอนแพทย์ เป็นต้น ตอบโจทย์การพัฒนาเทคโนโลยี อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์และเครื่องมือแพทย์ของประเทศสู่อนาคต

ศาสตราจารย์ กวง จง หยาง (Guang-Zhong Yang) คณบดี สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง (Shanghai Joao Tong) ที่มีชื่อเสียงด้านวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ของประเทศจีน กล่าวถึงหุ่นยนต์การแพทย์ เจนเนเรอชั่นที่ 5 ในอนาคต ว่า ในโลกวิทยาการด้านหุ่นยนต์การแพทย์นั้นมีพัฒนาการต่อเนื่องมากว่า 40 ปี แบ่งเป็น 5 เจนเนอเรชั่น เริ่มตั้งแต่ หุ่นยนต์การแพทย์ เจนเนอเรชั่นที่ 1 ในช่วงทศวรรษปี 1980's เริ่มจากการประยุกต์หุ่นยนต์แขนกลที่ใช้ในอุตสากรรมมาพัฒนาดัดแปลงใช้งานทางการแพทย์ เช่น หุ่นยนต์ Puma, Neuromate ต่อมาเจนเนอเรชั่นที่ 2 ช่วงปี 1990- 2003 มีการออกแบบและผลิตนวัตกรรมหุ่นยนต์การแพทย์มากมาย เช่น หุ่นยนต์ ROBODOC หุ่นยนต์ ZEUS ใช้ในการฝึกทางคลินิค CyberKnife เป็นระบบหุ่นยนต์ฉายรังสีศัลยกรรมสำหรับผ่าตัดเนื้องอก เซลมะเร็งและอื่นๆได้ทั่วร่างกาย และในปี 2003 หุ่นยนต์ผ่าตัด da Vinci ผลงานของสตาร์ทอัพชื่อ Intuitive Surgical เปิดตัวในลอนดอนด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำเป็นที่ยอมรับในนานาประเทศ และพัฒนามาจนถึงปัจจุบันโดยครองส่วนแบ่งตลาดโลกสูงที่สุด สำหรับเจนเนอเรชั่นที่ 3 ช่วงปี 2015 จะเป็นหุ่นยนต์ที่ออกแบบและพัฒนาสำหรับการใช้ผ่าตัดเฉพาะที่ของร่างกายมนุษย์ ช่วยให้แพทย์ทำงานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคต่างๆได้ดียิ่งขึ้น เช่น da Vinci SP ในปี 2018 หุ่นยนต์ Monach ซึ่งเป็น Flexible Robot มีระบบนำทางแบบ 3D สำหรับส่องกล้องทางเดินหายใจส่วนล่าง กล่องเสียง ตรวจภายในหลอดลม เป็นต้น ส่วนการพัฒนาหุ่นยนต์ในเจนเนอเรชั่นที่ 4 เป็นการต่อยอดพัฒนาหุ่นยนต์การแพทย์ที่ใช้กับกลุ่มโรคต่างๆ โดยแบ่งเป็น หุ่นยนต์สำหรับระบบประสาท/การบาดเจ็บที่หู คอ จมูก (Neuro/ENT) หุ่นยนต์สำหรับการตรวจรักษาลำไส้ (Endoluminal) หุ่นยนต์สำหรับงานผ่าตัดช่องท้องด้วยวิธีผ่านกล้อง (Laparoscopy) และหุ่นยนต์สำหรับการผ่าตัดกระดูก (Orthopaedics)

สำหรับหุ่นยนต์การแพทย์แห่งอนาคต ในเจนเนอเรชั่นที่ 5 จะเป็นไมโครโรบอตที่มีขนาดเล็กลงผสานรวมเทคโนโลยีการทำงานหลายอย่างเข้าด้วยกัน การเปลี่ยนผ่านระบบผ่าตัดในโรงพยาบาลสำหรับอนาคตจะมี 5 ลำดับของการพัฒนาความก้าวหน้าของเทคโนโลยีระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ จากเดิมที่เป็นการผ่าตัดของแพทย์โดยไม่มีระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติใดๆ มาช่วยเลย มาเป็น 1.การผ่าตัดโดยมีหุ่นยนต์มีส่วนช่วยแพทย์ผ่าตัด 2. พัฒนาการผ่าตัดไปสู่การทำงานอัตโนมัติให้บรรลุภารกิจหลักที่ตั้งไว้ 3. ใช้ระบบอัตโนมัติในการผ่าตัดที่มีการกำหนดเงื่อนไข 4. การใช้ระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติระดับสูง และ 5. ระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติดำเนินการผ่าตัดตลอดกระบวนการอย่างสมบูรณ์ 100% ในที่สุด

หุ่นยนต์การแพทย์ในอนาคต จะมีคุณลักษณะ 4 อย่าง คือ 1. ความไปกันได้กับระบบ (Compliant) 2. ความต่อเนื่อง (Continuum) 3. การประสานร่วมมือ (Corporative) และ 4.เป็นที่ยอมรับในคุณภาพ (Cognitive) อุปกรณ์เครื่องมือจะมีขนาดเล็กลง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ ความเร็วยิ่งขึ้น เช่น High-Speed Endomicroscopy, Fabrication Across Scales

ด้านทีมคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความสำเร็จในการทำงานร่วมกับคณะวิศวะมหิดล เช่น พัฒนาหุ่นยนต์ผ่าตัดปลูกเส้นผมในประเทศไทย (Robotic Hair Transplantation) โดย รศ.นพ.รัฐพล ตวงทอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะ ได้พัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ผ่าตัดปลูกผมระบบ FUE ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วแม่นยำ และ ผศ.นพ.วิษณุ กัมทรทิพย์ หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู ได้นำเสนอเกี่ยวงกับ "Siriraj NeuRoART: Experience, Expectation & Evolution" การสร้างผลงานนวัตกรรมทางการแพทย์ อาทิเช่น การพัฒนาหุ่นยนต์และอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย หุ่นยนต์ฝึกการเดิน (RAGT), Rigid Wearable Exoskeleton Lower Limb, Upper Limb Robotic Rehabilitation เป็นต้น เชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกันระหว่างวิศวกรและแพทย์เปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นได้

ส่วนทีมคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โดย รศ.ดร.นพ.สรยุทธ์ ชำนาญเวช ได้นำเสนอประสบการณ์ด้านพัฒนาหุ่นยนต์ผ่าตัดระบบประสาทที่น่าสนใจเกี่ยวกับ "Robotic Integrated Neurosurgery in Ramathibodi Hospital" ด้วยความร่วมมือจากคณะวิศวะมหิดล ในการพัฒนาหุ่นยนต์ผ่าตัดสมอง หุ่นยนต์ผ่าตัดกระดูกสันหลังได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของประเทศไทย

นอกจากนี้ รศ.นพ.หม่อมหลวง ชาครีย์ กิติยากร หัวหน้าศูนย์พัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ ได้เผยถึงการดำเนินงานของศูนย์ MIND หรือ Medical Innovations Development Ramathibodi Center ว่า ศูนย์ฯเป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเฮลท์แคร์ ระหว่างบุคลากรแพทย์ วิศวกร นักวิทยาศาสตร์และนักศึกษา ตลอดจนทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการช่วยจำหน่ายผลงานด้านนวัตกรรมที่ได้รับการแจ้งจดทางทรัพย์สินทางปัญญา บริหารจัดการนวัตกรรมให้เข้าสู่เชิงพาณิชย์โดยเร็วเพื่อให้มีการผลิตและจัดจำหน่ายต่อไปอีกด้วย

ที่มา: เบรนเอเซีย คอมมิวนิเคชั่น

วิศวะมหิดล ร่วมกับม.เซี่ยงไฮ้เจียวทง และสมาคมไออีอีอีฯ เปิดอนาคตหุ่นยนต์การแพทย์ เจนเนอเรชั่นที่ 5

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version