CGS คาดสัปดาห์นี้ปัจจัยหลักได้แก่เงินเฟ้อสหรัฐและสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศ แนะ TOP CPF

จันทร์ ๑๐ มกราคม ๒๐๒๒ ๑๖:๕๙
CGS คาดสัปดาห์นี้ปัจจัยหลักได้แก่เงินเฟ้อสหรัฐและสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศ แนะ TOP CPF
CGS คาดสัปดาห์นี้ปัจจัยหลักได้แก่เงินเฟ้อสหรัฐและสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศ แนะ TOP CPF

บทวิเคราะห์ประจำสัปดาห์จาก บริษัท หลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เผยว่าวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 1.9 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 4.26 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยออกมาที่ 3.9% (คาดการณ์ 4.1%) แม้การจ้างงานจะต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่ภายหลังจากที่ตลาดทราบตัวเลข ดังกล่าวปรากฏอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปียังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องชี้ถึงความกังวลเงินเฟ้อที่ยังปกคลุมนักลงทุนอยู่ ถัดมาในประเทศสำหรับประชุม ศบค. ในวันศุกร์ปรากฎว่าที่ประชุมยังไม่มีมติ Lock Down แต่ประกาศเพิ่มจังหวัดสีส้มเข้าสู่ 69 จังหวัดจากเดิม 39 จังหวัด โดยจังหวัดสีส้มยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เกือบปกติเพียงแต่จะห้าม (1) ห้ามรับประทานเครื่องดื่มที่ทำให้มึนเมาทุกประเภท (2) ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชนมากกว่า 500 คนขึ้นไประยะสั้นทำให้ตลาดจะผ่อนคลายได้บ้างแต่ทั้งนี้คงต้องติดตามสถานการณ์ระบาดหลังจากนี้ ซึ่งในต่างประเทศพบว่าหลังจากเผชิญสายพันธุ์ Omicron การติดเชื้อต่อวันก็เร่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในประวัติการณ์ ดังนั้นประเทศไทยก็มีความเป็นไปได้ที่หลังจากนี้การติดเชื้อจะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับ Scenario ของ ศบค. ที่เปิดเผยว่าในเดือน ก.พ. การติดเชื้อต่อวันอาจสูงถึง 3 หมื่นราย ซึ่งหากการติดเชื้อไปถึง 3 หมื่นรายก็ต้องกลับมาดูท่าทีว่ารัฐบาลจะเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการหรือไม่เพราะจะนำมาซึ่งความเสี่ยงเปิดโอกาสปรับลดประมาณการทั้งเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียน โดยปัจจัยสัปดาห์นี้ได้แก่ (1) เงินเฟ้อสหรัฐ (CPI) ในวันพุธ Bloomberg คาดที่ +0.4%MoM +7%YoY (2) เงินเฟ้อสหรัฐ (PPI) ในวันพฤหัสบดี Bloomberg คาดที่ +0.4%MoM +9.8%YoY หากตัวเลขออกมาสูงกว่าตลาดคาดก็อาจจะเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้น แต่จะดีกับกลุ่มประกัน อาทิ BLA รวมถึงอาจกดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าได้ต่อบวกกับกลุ่มส่งออกที่ Valuation ยังไม่สูงมาก (TU) ดังนั้นจากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมายังไม่พบปัจจัยบวกแต่อย่างใดจึงเชื่อว่าทิศทางสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวกรอบ 1635 - 1670

กลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นเป็นการ Trading ระยะสั้นและเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวก อาทิ เนื้อสัตว์ยืนระดับสูง (CPF GFPT TFG) ส่งออก (TU) ตามปัจจัยบวกค่าเงินบาทอ่อนค่า ประกัน (BLA) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ส่วนทยอยสะสมยังแนะ Wait & See ก่อนเพื่อรอดูความชัดเจนจาก COVID-19 ในประเทศ

TOP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 67 บาท) คาดกำไรปกติจะโตต่อเนื่องในปี 2022 หลังฟื้นตัวขึ้นมาจากผลขาดทุนในปี 2020 และมีผลประกอบการแข็งแกร่งในปี 2021 หนุนจาก 1) ค่าการกลั่นที่ดีขึ้น 2) ผลประกอบการธุรกิจปิโตรเคมีที่มั่นคง และ 3) การรับรู้รายได้จากโครงการ CAP

CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26 บาท) แม้ราคาปัจจุบันจะเกินกว่าราคาเป้าหมาย อย่างไรก็ตามด้วยราคาเนื้อสัตว์ที่มีโอกาสยืนระดับสูงอย่างน้อย 3 เดือนเนื่องจากกว่าที่กำลังการผลิตจะกลับเข้าสู่ตลาดมักใช้ระยะเวลา นอกจากนี้ในช่วงตรุษจีนจะยิ่งเป็นอีกปัจจัยกระตุ้นอุปสงค์ของราคาทำให้ราคาเนื้อสัตว์มีโอกาสขยับขึ้น จึงมองว่าสามารถเก็งกำไรได้

ที่มา: บางกอก ออทัม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ