ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของบ. เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ที่ 'A(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

อังคาร ๑๑ มกราคม ๒๐๒๒ ๐๙:๐๒
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ที่ 'A(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ 'F1(tha)'

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตภายในประเทศของ ASP สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ (franchise) ที่แข็งแรงและรูปแบบการทำธุรกิจ ของบริษัทที่หลากหลาย (diversified business model) เมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่ได้พึ่งพิงการสนับสนุนจากบริษัทแม่รายอื่นในประเทศไทยที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิต ฟิทช์คาดว่า ASP น่าจะสามารถรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน (competitive advantages) ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ ASP รับมือกับความท้าทายในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์และการชะลอตัวตามวัฎจักรของอุตสาหกรรมได้ในระยะปานกลาง สำหรับในระยะสั้นแรงกดดันจากการแข่งขันน่าจะได้รับการบรรเทาลงได้บ้างจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่น่าจะยังคงมีเสถียรภาพ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังของการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งฟิทช์คาดว่าเศรษฐกิจ (GDP) จะมีอัตราการเติบโตที่ 4.5% ในปี 2565 เพิ่มขึ้นจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่ 0.9% ในปี 2564 ฟิทช์คาดว่ามูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดอาจจะปรับตัวลดลงบ้างในปี 2565 หลังจากที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2564 แต่อย่างไรก็ตามภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์น่าจะยังคงอยู่ในระดับที่ดีพอที่บริษัทหลักทรัพย์ในอุตสาหกรรมจะสามารถทำกำไรได้ระดับที่เพียงพอ ซึ่งรวมถึง ASP

อันดับเครดิตของ ASP ยังสะท้อนถึงฐานะการเงินของบริษัทที่ค่อนข้างมั่นคง ผลประกอบการของบริษัทในปี 2564 ได้รับแรงหนุนจากบรรยากาศการลงทุน (investor sentiment) และปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้น 49% ใน 9 เดือนแรกปี 2564 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 33% ในปี 2563 เทียบกับปี 2562 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ยของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 27% ใน 9 เดือนแรกปี 2564 เทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 12% ในปี 2560-2564 แม้ว่าอัตรากำไรของบริษัทอาจชะลอตัวลงบ้างจากการชะลอตัวของปริมาณการซื้อขายของตลาด แต่ฟิทช์คาดว่ารายได้ของบริษัทยังคงได้รับแรงหนุนจากภาวะตลาดต่อเนื่องในปี 2565 ฐานะเงินทุนและสภาพคล่องของ ASP ยังคงอยู่ในในระดับที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์อื่นในประเทศ อีกทั้งยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับอันดับเครดิตของบริษัท ณ ปัจจุบัน

ASP ยังคงมีอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าที่สูงกว่าเมื่อเทียบค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 0.08% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 แม้ส่วนต่างจะปรับแคบลงต่อเนื่อง ซึ่งอัตราค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าสะท้อนถึงคุณภาพและประสิทธิภาพ (depth) ของผลิตภัณฑ์และการบริการแบบครบวงจร และฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งของบริษัท นอกจากนี้ในภาพรวมของกลุ่ม ASP มีความสามารถที่จะขยายการดำเนินงานไปในธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากธุรกิจนายหน้าค้าค้าหลักทรัพย์ในประเทศได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทมีเสถียรภาพมากขึ้น โดย ณ สิ้นงวด 9 เดือนแรกปี 2564 บริษัทมีรายได้ที่ไม่ได้มาจากธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ที่ประมาณ 56% ของรายได้รวม สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสหากรรมที่ 44%

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับเครดิตภายในประเทศของ ASP ปัจจุบันอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงแล้วเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์อื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยใช้ฐานะทางการเงินของตัวบริษัทเองในการพิจารณาอันดับเครดิต ดังนั้นโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับในระยะสั้นนั้นมีค่อนข้างจำกัด เนื่องจาก ASP ยังคงมีการดำเนินงานส่วนใหญ่ที่เกี่ยวเนื่องกับภาวะตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งภาวะอุตสาหกรรมยังมีผู้ให้บริการเป็นจำนวนมาก (fragmented market) และมีการแข่งขันที่สูง

อันดับเครดิตภายในประเทศอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับในระยะยาว หากเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งและความหลากหลายทางธุรกิจของ ASP สามารถส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการที่สม่ำเสมอและปรับดีขึ้นสูงกว่าบริษัทหลักทรัพย์รายอื่นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงวัฎจักรของอุตหสาหกรรม (through the cycle) พร้อมทั้งฐานะเงินกองทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตของ ASP หากบริษัทมีผลประกอบการและผลกำไรที่ปรับตัวลดลงอย่างมากซึ่งเกินกว่าการคาดการณ์ของฟิทช์และแย่กว่าแนวโน้มอุตสาหกรรม อีกทั้งภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานและกระทบต่อต่อความสามารถในการทำกำไรในระดับที่มากกว่าคาดการณ์อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้เช่นกัน เช่นในกรณีที่บริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ยต่ำกว่า 7% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง และประกอบกับการมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านของเงินทุนที่ด้อยลง เมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในด้านรายได้และฐานะทางการเงิน โดยเหตุการณ์ดัวกล่าวนี้อาจบ่งชี้ว่าความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจหรือรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายของบริษัทอาจปรับตัวด้อยลงมากกว่าที่คาดการณ์

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้:

  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ A(tha) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ F1(tha)

ที่มา: ฟิทช์ เรทติ้งส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO