นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ "TKC" กล่าวว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่เชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจผู้ให้บริการออกแบบ วางระบบ จัดหา จำหน่ายอุปกรณ์ ติดตั้ง และบริการบำรุงรักษาระบบ ที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมในสายงานระบบโทรคมนาคม ระบบสื่อสารข้อมูล และระบบความปลอดภัยสาธารณะ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมมาเกือบ 20 ปี ทำให้หลังจากที่บริษัทฯ เปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) เมื่อวันที่ 7 มกราคม และวันที่ 10-11 มกราคมที่ผ่านมา ที่ราคาหุ้นละ 18 บาท ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม
เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ประมาณ 1,404 ล้านบาท จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามแผนงานที่วางไว้ โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ เช่น โครงการเกี่ยวกับระบบโทรคมนาคม ระบบโครงข่ายสื่อสัญญาณ (Transmission Networks) ระบบศูนย์ข้อมูลหลัก ศูนย์ข้อมูลสำรอง ระบบคลาวด์ Smart Solutions ระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัลและระบบตรวจสอบเฝ้าระวังและการบริหารความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Security) รวมถึงงานบริการเพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง เป็นต้น ระยะเวลาการใช้เงินภายในปี 2565-2566
การเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการเติบโตให้บริษัทฯ เพื่อรองรับการเติบโต ความต้องการของลูกค้า และการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสู่เทคโนโลยี 5G ความต้องการการใช้งานทางด้าน IoT AI ระบบคลาวด์ และโซลูชั่นส์อัจฉริยะต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ การระบาดของ COVID-19 ทำให้มีการทำงานที่บ้าน (Work From Home) เรียนออนไลน์ และเพิ่มความต้องการติดตั้ง Fixed Broadband และการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของบริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ "TKC" เปิดเผยว่า ในช่วงเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอของ TKC ระหว่างวันที่ 7 มกราคมและวันที่ 10-11 มกราคมที่ผ่านมา มีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเต็มจำนวน สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ TKC ทั้งศักยภาพการเติบโตในอุตสาหกรรม โดย TKC จะเป็นหนึ่งในผู้นำของการสร้างระบบเครือข่ายความเร็วสูง ด้วยเทคโนโลยี 5G รวมทั้งงานระบบสื่อสารโทรคมนาคมอื่นๆ ภายในประเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งจะเข้ามาเป็นผู้สร้างและผู้ร่วมให้บริการสถานีชาร์จ EV อีกรายของประเทศ และเป็นการสนับสนุนและพัฒนาเปลี่ยนแปลงสู่เทคโนโลยี 5G ตามความต้องการใช้งานทางด้าน IoT AI ระบบคลาวด์ และโซลูชั่นส์อัจฉริยะต่างๆ เป็นต้น เพื่อรองรับโอกาสเติบโตในอนาคต จึงมั่นใจว่า TKC จะสามารถเติบโตต่อไปในอนาคต และทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีในวันเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร วันที่ 17 มกราคมนี้
ทั้งนี้ TKC เสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 78 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท กำหนดราคา IPO หุ้นละ 18 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ด้านนางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า TKC ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยมในครั้งนี้สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ รวมทั้งเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้เพิ่มศักยภาพธุรกิจ รับปัจจัยบวกจากการเข้ามาของเทคโนโลยี 5G เนื่องจากต้องมีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ และมีการติดตั้งสถานีฐานและเสาสัญญาณจำนวนมากเพื่อรองรับ 5G ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของมูลค่าตลาดสื่อสารโทรคมนาคม และเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโทรคมนาคม
การเปลี่ยนแปลงมาเป็น 5G ทำให้มีความต้องการด้านโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมมากขึ้นและเพิ่มศักยภาพให้ TKC ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในการให้บริการงานวิศวกรรมในสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม ได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต สะท้อนความมุ่งมั่นของผู้บริหารและวิสัยทัศน์อันกว้างไกลจึงมองว่า TKC จะเป็นหุ้นพื้นฐานดีที่ไม่ควรมองข้ามนักลงทุนที่พลาดโอกาสในการจองซื้อหุ้น IPO ช่วงที่ผ่านมา คาดว่า TKC จะเข้าเทรดในวันที่ 17 มกราคมนี้ สามารถจับจองบนกระดานหลักทรัพย์ได้
ที่มา: ไออาร์ พลัส