ป่าชายเลนบ้านคลองโคน จ.สมุทรสงคราม ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ป่าชายเลนที่สำคัญ เดิมมีพื้นที่ป่าชายเลนกว่า 3.7 หมื่นไร่ แต่หลังจากที่มีการบุกรุกเพื่อนำมาทำนากุ้งและใช้ประโยชน์อื่นๆ ทำให้ป่าชายเลนลดน้อยลงมาก ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลใกล้ชายฝั่งได้สูญเสียไป จนชาวบ้านไม่สามารถทำการประมงชายฝั่งได้ ประชากรในพื้นที่แยกย้ายไปประกอบอาชีพในต่างถิ่น
กิจกรรมปลูกป่าชายเลนบ้านคลองโคน จึงได้ริเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2534 โดยนายไพบูลย์ รัตนพงศ์ธระ หรือผู้ใหญ่ชงค์ร่วมกับชาวบ้านในชุมชนตำบลคลองโคนที่เห็นความสำคัญของป่าชายเลน ร่วมกันปลูกป่าเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูป่าชายเลนคลองโคลนอย่างจริงจัง จนได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของภาครัฐ อีกทั้งยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเห็นความสำคัญของการปลูกป่าชายเลน จึงได้เสด็จมาทรงปลูกป่าชายเลนที่คลองโคนด้วยพระองค์เอง ในปี 2540, 2541, 2542, 2545 และ 2547 ส่งผลให้ปัจจุบันพื้นที่ป่าชายเลนคลองโคนกลับฟื้นขึ้นมาเขียวขจีอีกครั้งหนึ่ง เกิดความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำชายฝั่งมากมาย ช่วยปลุกวิถีการทำประมงพื้นบ้านชายฝั่งให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง มีการรวมตัวกันจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สร้างอาชีพเสริมให้กับชาวบ้านในชุมชน รวมถึงร่วมกันทำกิจกรรมปลูกป่าชายเลน
เพื่อร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ "POP" ร่วมกับ ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน ได้จัดกิจกรรม โครงการ "ชลิต อินดัสทรี รักษ์น้ำ ปลูกป่า" ปี 2 ขึ้น โดยเมื่อเร็วๆ นี้ นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นายอธิวัฒน์ และนาง มนัสนันท์ เปรมพุฒิพันธ์ กรรมการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด นำทีมผู้บริหารและพนักงานจิตอาสากว่า 40 คน ร่วมใจปลูกป่าชายเลนคลองโคน ต.คลองโคน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม โดยได้รับความร่วมมือจาก นายพีร์นิธิ รัตนพงศ์ธระ หัวหน้าศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน และชาวบ้านในชุมชน
นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและจัดกิจกรรมเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ รวมถึงด้านดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยโครงการ "ชลิต อินดัสทรี รักษ์น้ำ ปลูกป่า" ได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่2 เพื่อต่อยอดโครงการอละช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศน์ อีกทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการเป็นจิตอาสาให้แก่พนักงานให้เห็นความสำคัญของการร่วมมือร่วมใจเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกิจกรรมงานสิ่งแวดล้อมและช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
กิจกรรมครั้งนี้ นอกจากพนักงานจะได้ร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลนแล้ว ยังได้ล่องเรือชมระบบนิเวศน์ป่าชายเลน สัมผัสกับบรรยากาศของป่าชายเลนสองข้างทาง แวะให้อาหารลิงแสม เล่นสกีน้ำกิจกรรมสันทนาการแบบพื้นบ้าน ชมวิถีชาวบ้านตามแนวชายฝั่ง ร่วมเรียนรู้กิจกรรมวิถีชีวิตชุมชม และร่วมทำขนมจาก รวมถึงการอุดหนุนสินค้าพื้นบ้านของชุมชน โดย นายพีร์นิธิ รัตนพงศ์ธระ หัวหน้าศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน เล่าว่า ชาวบ้านในชุมชนได้รวมตัวกันจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนและท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อสร้างอาชีพที่เกี่ยวเนื่องให้กับคนในชุมชน เช่น กลุ่มกระเตง(ขนำกลางทะเล) กลุ่มชาวเรือ กลุ่มทำอาหาร เป็นต้น เพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับชาวบ้านในชุมชน ช่วยส่งเสริมกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อชุมชนและนักท่องเที่ยว ได้ทั้งความสนุก ได้สาระความรู้ และความรู้สึกดีๆ ที่ได้ร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติควบคู่กันไป
ที่มา: คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์