เป็นที่ทราบกันดีว่า การที่นักเรียนไทยจะเข้าศึกษาต่อในคณะดังของมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆในต่างประเทศนั้น ต้องผ่านการทดสอบความสามารถภาษาอังกฤษระดับนานาชาติ หรือ การสอบ IELTS ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ไอเอลส์ (IELTS; International English Language Testing System) เป็นการทดสอบภาษาอังกฤษระดับนานาชาติสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักหรือภาษาประจำชาติ เป็นการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ ทั้งทักษะการฟัง พูด อ่านและเขียน โดยการสอบไอเอลส์ถูกใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกคนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศต่างๆ ซึ่งจะมีคะแนนขั้นต่ำกำหนดไว้เป็นเกณฑ์ในการรับเข้า ดังนั้น การสอบไอเอลส์จึงถือเป็นบันไดสำคัญของการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของต่างประเทศ
นางสาวจารุวรรณ พงษ์จารุวัฒน์ ผู้อำนวยการด้านการศึกษา หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ระบุว่า หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาความสามารถภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนนักศึกษาไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้มอบทุนพัฒนาภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนในกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย และทุนภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มความสามารถในการเป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองโลกให้กับโรงเรียนชั้นนำทั่วประเทศ เป็นต้น และล่าสุดได้ริเริ่มจัดโครงการทุนเรียนภาษาอังกฤษแบบผสมผสานเพื่อเตรียมสอบ IELTS เชิงวิชาการ ของมหาวิทยาลัยโอทาโก เพื่อเป็นทุนสนับสนุนทุนการศึกษาของโครงการนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนทุนรัฐบาล (ทุนก.พ.) ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ. หรือ OCSC) และทุนนักวิชาการ NSTDA ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้สามารถสมัครเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของนิวซีแลนด์ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังได้มอบทุนให้กับนิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร และนักเรียนจากโรงเรียนปรินส์รอยัลส์วิทยาลัย ที่เข้าร่วมในโปรแกรมนี้ ซึ่งทุกคนมีความตั้งใจที่จะสมัครในวิชาที่น่าสนใจและมีประโยชน์มาก เช่น นาโนเทคโนโลยีจนถึงเทคโนโลยีอาหาร
"หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ หวังว่าหลังจากเรียนจบหลักสูตรพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสอบ IELTS ซึ่งเป็นการเรียนแบบผสมผสาน 16 สัปดาห์ ทุกคนจะสามารถเดินตามความฝันและอนาคตของพวกเขาได้สำเร็จ เพราะศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยโอทาโก มีชื่อเสียงมากในการพัฒนานักเรียนไทยจำนวนมากให้ประสบความสำเร็จ โดยที่ผ่านมาศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยโอทาไทยได้สอนนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ และโรงเรียนกำเนิดวิทย์มาหลายปี และสามารถพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษและทำให้ผล IELTS ของนักเรียนดีขี้นมากหลังจากจบหลักสูตร" นางสาวจารุวรรณ กล่าวและเสริมว่า
มหาวิทยาลัยของนิวซีแลนด์ทั้ง 8 แห่งติด Top 3% ของโลก และนิวซีแลนด์ยังถูกจัดเป็นอันดับ 1 จากประเทศที่พูดอังกฤษเป็นหลักในการสอนนักเรียนเพื่อพัฒนาทักษะนักเรียนสู่อนาคตได้ดีที่สุดในโลก จาก The Economist Intelligence Unit ในปี 2019 มหาวิทยาลัยของนิวซีแลนด์มีหลักสูตรที่เหมาะต่อการศึกษาในยุคดิจิทัล เช่น ธุรกิจดิจิทัล ไปจนถึงหลักสูตรสุขภาพการแพทย์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ในหลากหลายสาขา ตั้งแต่การเกษตรไปจนถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ธุรกิจอวกาศหรือการสร้างจรวดอวกาศจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) และเทคโนโลยีสำหรับปัญหาสิ่งแวดล้อมทั่วโลก เป็นต้น
ด้าน นางสาววิสา แซ่เตีย ผู้อำนวยการฝ่ายนักเรียนทุนรัฐบาลด้านวิทยาศาสตร์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ขอบคุณหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย และมหาวิทยาลัยโอทาโก ที่ช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายและมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนทุนกพ. และทุนนักวิชาการ NSTDA ในครั้งนี้
ซึ่งจะมีส่วนช่วยเหลือนักเรียนของเราให้เข้าสู่การศึกษาระดับนานาชาติและได้รับความรู้และความสามารถทางภาษาอังกฤษในหลาย ๆ ด้าน และจะช่วยให้นักเรียนของเราพร้อมเรียนในมหาวิทยาลัยระดับโลกในนิวซีแลนด์ต่อไป
นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง และได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศผู้นำด้านนวัตกรรมการศึกษาและเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการเรียนรู้ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในการเสริมสร้างนักเรียนสู่ทักษะในอนาคต โดยได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 จากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในด้านการจัดการศึกษาได้ดีที่สุดในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต จากการจัดอันดับของ Worldwide Educating for the Future Index 2019 โดย The Economist Intelligence Unit
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ดูได้ที่ www.studyinnewzealand.govt.nz
ที่มา: คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์