ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด : คาดเศรษฐกิจไทยปี 65 โต 3.3% จับตาปัจจัยสำคัญทุกไตรมาสตลอดทั้งปี

ศุกร์ ๑๔ มกราคม ๒๐๒๒ ๑๐:๓๕
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะเติบโตร้อยละ 3.3 อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามตลอดทั้งปี 
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด : คาดเศรษฐกิจไทยปี 65 โต 3.3% จับตาปัจจัยสำคัญทุกไตรมาสตลอดทั้งปี

4 ไตรมาส 4 ปัจจัยสำคัญต้องติดตาม

  • ไตรมาสที่ 1 : ฤดูกาลท่องเที่ยวของไทยเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงไตรมาส 1 ของปีถัดไป ในไตรมาสนี้จึงเป็นที่จับตามองว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยในช่วงไฮซีซั่นอย่างไร หลังจากที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทยอย่างหนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
  • ไตรมาสที่ 2 : เป็นช่วงของการทบทวนประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2565 ว่าจะมีจำนวน 5-10 ล้านคนตามที่คาดการณ์ไว้ได้หรือไม่ และสะท้อนให้เห็นว่าภาคการท่องเที่ยวกำลังค่อยๆ ฟื้นตัวสู่ภาวะปกติแล้วจริงไหม
  • ไตรมาสที่ 3 : อาจจะเกิดความผันผวนในตลาดการเงินอันเป็นผลมาจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยกับธนาคารกลางอื่นในโลก เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับต่ำให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจ ในขณะที่ธนาคารกลางอื่นๆ ในโลกอาจจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งอาจก่อให้เกิดเงินทุนไหลออกนอกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ประเทศไทยไม่มีตัวช่วยอย่างดุลบัญชีเดินสะพัดและการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งเฉกเช่นในอดีตก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
  • ไตรมาสที่ 4 : น่าจะเริ่มมีการเคลื่อนไหวทางการเมือง เนื่องจากประเทศไทยจะเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปในปี 2566

"ปีนี้ยังคงมีความไม่แน่นอนรออยู่ โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามทุกไตรมาสตลอดทั้งปี," ดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าว

"ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดมีมุมมองระมัดระวังสำหรับเศรษฐกิจไทยมาตั้งแต่ก่อนการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เราคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะเติบโตร้อยละ 3.3 ซึ่งในขณะนั้นเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำกว่าประมาณการจากสำนักอื่น แต่ตอนนี้ หลายๆ แห่งกำลังปรับลดประมาณการเศรษฐกิจของตนลงมา" 

การลงทุน การบริโภคภาคเอกชน ยังไม่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

ตั้งแต่ก่อนการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน การลงทุนภาคเอกชนยังไม่ส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภค แม้จะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยทั้งสองตัวแปรนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่มั่นใจในภาคเอกชนที่ยังปกคลุมอยู่ในปี 2565

เริ่มขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปี 2566

แม้ว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่ยังอยู่ในกรอบที่ธนาคารแห่งประเทศไทยตั้งไว้ ดังนั้น ด้วยภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศยังต้องการการประคับประคอง คณะกรรมการนโยบายการเงินน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.50 ตลอดทั้งปี 2565 และหากเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวได้จริง ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดว่า กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้ง ในปี 2566  ดร.ทิม กล่าว

ดอลลาร์/บาท น่าจะอยู่ที่ 32 ในสิ้นปี 2565

การที่ธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ประกอบกับผลกระทบจากการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ค่าเงินบาทน่าจะยังคงอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม หากการท่องเที่ยวค่อยๆ กลับมาฟื้นตัว ค่าเงินบาทน่าจะเริ่มแข็งค่าขึ้นในครึ่งปีหลัง

ที่มา: ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ