นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีผลกระทบกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหยุดชะงักด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง โดย VRANDA ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจ พร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งมองหาโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ ภายใต้แนวคิดการขยายธุรกิจโรงแรมด้วยโมเดลใหม่สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต เพื่อเตรียมธุรกิจให้พร้อมรับกับแนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนล่าสุด แม้ว่ามีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก แต่สถิติการเสียชีวิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากการที่ประชากรส่วนใหญ่เริ่มมีภูมิคุ้มกันจากการเข้ารับการฉีดวัคซีนตามนโยบายของแต่ละประเทศ โดยคาดการณ์ว่าโควิด-19 ในอนาคตจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) หรือโรคที่เกิดขึ้นประจำในพื้นที่นั้น ซึ่งมีอัตราเจ็บป่วยคงที่และสามารถคาดการณ์ได้ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก เป็นต้น ดังนั้นประชากรทั่วโลกจึงมีแนวโน้มกลับมามีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทั้งด้านการท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง หรือกระทั่งการทานอาหารนอกบ้าน
นายวีรวัฒน์ กล่าวว่า การพัฒนาธุรกิจโรงแรมของ VRANDA มาจากความรู้ความเข้าใจในเชิงลึกถึงความต้องการของลูกค้า (Customer Insight) ทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงภายใต้แนวคิดการขยายธุรกิจ 'Veranda Collection' ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยมีจุดเด่นความคุ้มค่า ใช้เม็ดเงินลงทุนไม่มาก เพื่อสร้างสรรค์โรงแรมที่มีห้องพักจำนวนเหมาะสม พร้อมมอบบริการที่มุ่งสร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่น่าจดจำให้กับผู้มาเยือน ซึ่งสามารถพิสูจน์ความสำเร็จได้จากโรงแรมเวอโซ หัวหิน วีรันดา คอลเลกชัน (Verso hua hin - a Veranda Collection) ที่สร้างผลตอบแทนตลอดปี 2564 ได้เกินคาดจากแผนการดำเนินงานที่ตั้งไว้ในช่วงต้นปี ด้วยอัตราการเข้าพักที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไปแตะที่ระดับ 80% ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดบริษัทฯ ได้ต่อยอดแนวคิดการพัฒนา 'Veranda Collection' สู่ Veranda Collection Samui หรือ วีรันดา คอลเลกชัน สมุย ที่ได้เปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา โดยได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก มีอัตรายอดจองเข้าพักล่วงหน้าที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จากโครงการสนับสนุนของภาครัฐ 'Samui Plus Sandbox' นับเป็นอีกบทพิสูจน์แห่งความสำเร็จการพัฒนาโรงแรม Veranda Collection ที่มุ่งมั่นสร้างรายได้ที่คุ้มค่ากับการลงทุน ด้วยการบริหารจัดการต้นทุนที่ต่ำ สามารถให้ผลตอบแทนต่อห้องที่สูง ซึ่งมาจากประสบการณ์ดำเนินธุรกิจโรงแรมมายาวนาน ทำให้มีการบริการที่เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง พร้อมกับมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าสัมผัสได้ทุกการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ VRANDA โดยบริษัทฯ มั่นใจการลงทุนดังกล่าวจะสร้างผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง
"เราจะขยายโมเดล Veranda Collection สู่โลเคชั่นที่มีศักยภาพในเมืองท่องเที่ยวที่มีโรงแรมของวีรันดาตั้งอยู่แล้วอย่างชะอำ พัทยา หรือเชียงใหม่ เพื่อบริหารจัดการต้นทุนค่าดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งวางเป้าหมายขยายพื้นที่ที่เป็นเดสติเนชั่นสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีจุดดึงดูด อาทิ เขาใหญ่ โดยจะนำศักยภาพของบริษัทฯ ที่สามารถพัฒนาโครงการใหม่ที่มีคุณภาพได้อย่างรวดเร็วและไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง นอกจากนี้เรายังมีโครงการใหญ่ที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งธุรกิจโรงแรมและเรสซิเดนซ์ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาตามแผนที่วางไว้ และด้วยนโยบายการดำเนินธุรกิจดังกล่าว จะสนับสนุนเราเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังวิกฤตโควิดในครั้งนี้" นายวีรวัฒน์ กล่าว
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย