ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับปี 2564 จำนวน 26,507 ล้านบาท

ศุกร์ ๒๑ มกราคม ๒๐๒๒ ๐๘:๕๘
ในปี 2564 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยยังคงได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาดของโควิด-19 โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาส 3ธุรกิจจำนวนมากในภาคบริการและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาลที่ใช้ในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาส 4 จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทยอยลดลง และสัดส่วนของผู้ที่ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นตามลำดับ รัฐบาลจึงเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดและตัดสินใจเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้งในช่วงปลายปี ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศไทยและการบริโภคภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัว สำหรับภาคการส่งออกของไทยมีการขยายตัวมากขึ้นเนื่องจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของประเทศคู่ค้า และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการผลิตทั่วโลก ในระยะข้างหน้า การระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนและการกลายพันธุ์ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับปี 2564 จำนวน 26,507 ล้านบาท

นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการออกมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนที่ประสบปัญหา พร้อมทั้งดูแลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและเอื้อให้เกิดการปรับตัวอย่างเหมาะสมตามฐานวิถีชีวิตใหม่ภายหลังโควิด-19 ธนาคารกรุงเทพได้สนับสนุนมาตรการของภาครัฐ โดยให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าทุกกลุ่มอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ พร้อมเข้าใจความต้องการและปัญหาของลูกค้า ธนาคารเชื่อมั่นว่าการสนับสนุนทั้งด้านการเงินและการให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์สอดคล้องกับธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงโควิด-19 รวมถึงการปรับวิธีการดำเนินธุรกิจและการขยายธุรกิจเพื่อรองรับโอกาสใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะทำให้เราก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกันธนาคารได้ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง

ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.3

ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิสำหรับปี 2564 จำนวน 26,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 จากปีก่อน เป็นผลจากการรวมรายได้ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารเพอร์มาตาเต็มปี และการลดลงของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจากการบริหารต้นทุนเงินรับฝาก ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.10 สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.7 ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากธุรกิจหลักทรัพย์ การอำนวยสินเชื่อและบริการประกันผ่านธนาคารและกองทุนรวม รวมถึงการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดด้วยมูลค่ายุติธรรมซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด

สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากการรวมค่าใช้จ่ายของธนาคารเพอร์มาตาทั้งปี โดยมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานลดลงเป็นร้อยละ 50.0 นอกจากนี้ ธนาคารได้พิจารณาตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 34,134 ล้านบาท จากการพิจารณาปัจจัยผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับสายพันธุ์โอมิครอน รวมถึงความไม่แน่นอนของความเสี่ยงจากการกลายพันธุ์ของไวรัสที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง

ธนาคารกรุงเทพยังคงดำรงฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังต้องใช้เวลาและเตรียมพร้อมสำหรับการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจภายหลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย

ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,588,339 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 จากสิ้นปี 2563 จากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และสินเชื่อกิจการต่างประเทศ สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมลดลงเป็นร้อยละ 3.2 ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ร้อยละ 225.8

ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 จำนวน 3,156,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 จากสิ้นปีก่อน เป็นผลจากการที่ลูกค้ายังคงต้องการดำรงสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงในภาวะที่ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ร้อยละ 82.0 นอกจากนี้ ในเดือนกันยายน 2564 ธนาคารออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ อายุ 15 ปี ที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ภายใต้หลักเกณฑ์ Basel III จำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเสริมสร้างโครงสร้างเงินกองทุนของธนาคารให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ร้อยละ 19.6 ร้อยละ 16.0 และร้อยละ 15.2 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด./

ที่มา: ธนาคารกรุงเทพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ