สำหรับงาน "JAMNIME FESTIVAL 2022" จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จากการจัดงานครั้งแรกในปี 2020 โดยในปีนี้ได้รวบรวมสุดยอดภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นชื่อดังที่ได้รับความนิยม และเป็นที่ชื่นชอบจากคอหนังอนิเมะทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และยังไม่เคยเข้าฉายในประเทศไทยมาก่อน ทั้ง 7 เรื่อง ได้แก่ Pompo: The Cinephile, Sing a bit of harmony, Summer ghost, Mashin Eiyuden Wataru Shichi Tamashii No Ryujinmaru, Eureka seven hi evolution3, Misaki no mayoiga, Fortune Favors Lady Nikuko, นอกจากนั้นแล้ว ยังมีภาพยนตร์ที่เคยเข้าฉายแล้วได้รับการตอบรับที่ดี สร้างความประทับใจและเกิดกระแสอยากชมอีกเข้าฉายอีก 2 เรื่อง ได้แก่ Josee, the tiger and the fish และ Violet Evergarden the movie โดยภาพยนตร์ทั้ง 9 เรื่องนี้ จะเข้าฉายระหว่างวันที่ 29 ม.ค. - 2 ก.พ. 65 นี้ ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์, หาดใหญ่ ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่, ศรีราชา ซีนีเพล็กซ์, โคราช ซีนีเพล็กซ์ และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ จำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ทุกที่นั่งราคา 250 บาท พิเศษ! ทุกที่นั่ง จะได้รับ Pamphlet 1 เล่ม เป็นหนังสือที่รวบรวมเนื้อหาพิเศษจากภาพยนตร์ พร้อมเปิดจำหน่ายบัตรชมภาพยนต์ ในวันที่ 25 ม.ค. 65 เป็นต้นไป ผ่านช่องทาง Box Office หรือตู้ E-Ticket ทั้ง 5 สาขาที่ร่วมรายการ หรือผ่านเว็บไซต์ www.majorcineplex.com แล้วนำบัตรชมภาพยนตร์มาแลกรับของพรีเมียมที่สาขาที่เลือกชมภาพยนตร์นั้นๆ
พบกับกิจกรรมพิเศษเฉพาะวันที่ 29 - 30 ม.ค. 65 กับการเสวนาพูดคุยกับสุดยอดกูรูผู้เชี่ยวชาญและคร่ำหวอดในวงการอนิเมชั่นจากหลากหลายค่ายภาพยนตร์ชั้นนำ, ช้อปสินค้าของพรีเมียมลิขสิทธิ์แท้ญี่ปุ่น จากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย และสนุกสุดมันส์ไปกับมินิคอนเสิร์ตจากวงดนตรีสายอนิเมะชื่อดัง "Scarlette Band" ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น. ณ ลานอินฟินิซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
นางสาวพิชชาภา ณรงค์พันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟว์สตาร์ เอเจนซี่ จำกัด ผู้ก่อตั้ง เจแปน อนิเมะ มูฟวี่ ไทยแลนด์ หรือ "JAM" (แจม) กล่าวว่า "JAM" เกิดขึ้นจากการที่เราได้มีโอกาสทำโปรเจคร่วมกับพันธมิตรค่ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ และอีกหลายพาทเนอร์มีชื่อเสียงในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงเดือนธ.ค. ปี 60 ที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้น ถือได้ว่าเราคือเจ้าแรกๆ ที่เข้ามาดูแลและบริหารงานการตลาดแบบครบวงจรให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่น ตั้งแต่การคิดคอนเซ็ปต์ คอนเทนต์ การโปรโมทภาพยนตร์ผ่านช่องทางและแพลตฟอร์มต่างๆของบริษัท การประชาสัมพันธ์ รวมถึงการทำโปรโมชั่น ตลอดจนเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ โดยหลักการทำการตลาดของ "JAM" มุ่งเน้นสร้างกลุ่มเป้าหมายไปที่เป็นคนรักภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นในไทย ให้มีช่องทางสื่อสารชัดเจน สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และสอบถามรายละเอียดต่างๆ ของภาพยนตร์ได้โดยทีมงานมืออาชีพ มีความรู้และความเข้าใจในด้านภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่น รวมทั้งมีประสบการณ์ในการทำงานด้านลิขสิทธิ์ภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นเองโดยตรง
พิชชาภา ยังกล่าวต่ออีกว่า "การสร้างตลาดของภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นให้เติบโตนั้น เราไม่ได้มองว่าแค่นำภาพยนตร์เข้ามาฉายแล้วจบไป แต่ต้องวางแผน คิดวิธีการ และทำให้สอดคล้องกับการทำตลาดของบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น นั้นหมายความว่า ที่ญี่ปุ่นมีอะไร แบบไหน แล้วทางเราจะสามารถทำได้หรือไม่? เราต้องพยายามศึกษาและขออนุญาตไปทางต้นสังกัดว่า "เราขอทำแบบนี้ได้หรือไม่?" ทุกอย่างต้องมีการเจรจา พูดคุย ซึ่งหากทำได้ นั่นก็หมายความว่า ลูกค้าของเราก็จะได้รับความสนุกและความสุขกลับไปแบบเดียวกับที่คนญี่ปุ่นได้รับเช่นกัน ซึ่งนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรามีกลุ่มแฟนคลับอย่างเหนียวแน่น
ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ผ่านมา "JAM" ได้มุ่งเน้นการทำตลาดภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่น ให้ได้รับการยอมรับจากลุ่มคนทั่วไปมากขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างตลาดอนิเมะให้เติบโตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้จำนวนภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นในประเทศไทยมีการเติบโตมากกว่า 50% จากปีแรก ซึ่งในช่วงฝ่าวิกฤตโควิด19 และการรับชมภาพยนตร์แบบผิดลิขสิทธิ์ ทางบริษัทฯได้พยายามรักษาจำนวนภาพยนตร์ที่เข้าฉายในประเทศให้ไม่น้อยไปกว่าแผนเดิม และคาดหวังให้ตลาดเติบโตขึ้นอีก 20% ในปีนี้ โดยที่ผ่านมาเราได้ทำการตลาดให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นมาแล้วกว่า 40 เรื่อง และเรื่องที่ถือได้ว่าเป็นผลงานการทำการตลาดได้อย่างโดดเด่นและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ได้แก่ เรื่อง "One Piece Stampede" วันพีซ เดอะมูฟวี่ สแตมปีด และ "Demon Slayer" ดาบพิฆาตอสูร ภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก และสามารถกวาดรายได้ทั่วประเทศไทยทะลุ 100 ล้านบาทไปเมื่อปี 63 และล่าสุดกับ เรื่อง "My Hero Academia the movie3" รวมพลฮีโร่กู้วิกฤตโลก ที่เข้าฉายอยู่ในปัจจุบันและยังคงทำกระแสได้ดีอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้" พิชชาภา กล่าว
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจาก "JAM" เจแปน อนิเมะ มูฟวี่ ไทยแลนด์ ได้ทาง Facebook Fanpage: Japan Anime Movie Thailand หรือเว็บไซต์ http://shop.fivestaragency.co.th/
ที่มา: ภูเก็ตสแควร์