นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยถึงศักยภาพการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ BRR ในปีนี้ว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้ในปี 2565 เติบโตไว้ราว 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน เหตุได้อานิสงส์จากทุกธุรกิจในเครือเติบโต เสริมความมั่นคงของรายได้ และมุ่งสู่การดำเนินธุรกิจแบบ New S Curve อีกทั้ง ในธุรกิจหลักรับอานิสงส์แนวโน้มความต้องการน้ำตาลในตลาดโลกขยายตัว ประกอบกับปริมาณผลผลิตน้ำตาลที่ออกสู่ตลาดมีจำนวนเพิ่มขึ้น รวมทั้งรายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยขยายตัวมากขึ้น
"หมากธุรกิจของ BRR ในปี 2565 นี้ ตั้งเป้าทุกธุรกิจเติบโตรับปัจจัยเชิงบวก โดยเฉพาะเป็นช่วงขาขึ้นของราคาน้ำตาลทรายดิบที่ช่วงราคา 18.5-20 เซนต์/ปอนด์ ซึ่งมีปัจจัยมาจากผลผลิตน้ำตาลทั้งโลกไม่เพียงพอต่อความต้องการ และปัจจัยปัญหาการส่งออกน้ำตาลของอินเดีย ส่งผลดีต่อพรีเมี่ยมน้ำตาลทรายดิบของไทย โดยสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจส่งออกน้ำตาลของไทยในปี 2565 ให้มีคำสั่งซื้อมากขึ้น โดยประมาณการผลผลิตอ้อยในฤดูการผลิตปี 2564/65 อยู่ที่ 2.35 ล้านตัน สูงกว่าปีก่อน 34% และเทียบเคียงสัดส่วนประมาณการอ้อยเข้าหีบคาดว่าจะได้ปริมาณน้ำตาล ประมาณ 290,000 ตัน หนุนสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานทำให้รายได้จากการส่งออกปรับตัวสูงขึ้น" นายอนันต์ กล่าว
ด้านกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อย ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ชูการ์เคน อีโคแวร์ จำกัด (SEW) คาดว่าในปี 2565 จะกลับมามีกำไร จากการเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิตสอดคล้องกับคำสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศซึ่งเป็นสัญญาจองซื้อระยะยาวเฟสแรกรวมจำนวนกว่า 15 ล้านชิ้นต่อเดือน และในประเทศประมาณ 3 ล้านชิ้นต่อเดือน จ่อขยายเฟส 2 ช่วงกลางปี 2565 โดยจะใช้วัตถุดิบเยื่อชานอ้อย (เยื่อสีน้ำตาล) ที่เป็นโนว์ฮาวเฉพาะของบริษัท
นอกจากนี้ BRR ยังลุยเสริมทัพด้วยธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง (Wood pellet) โดยได้จัดตั้งบริษัท บีอาร์อาร์ กรีน โฮลดิ้ง จำกัด (BGH) ตอกย้ำการแตกไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ Wood pellet ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนความคืบหน้าโครงการ Wood pellet ในสปป.ลาว อยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างโรงงาน คาดเตรียมกดปุ่มเดินเครื่องตามแผนภายในไตรมาส 2 ปี 2566
ที่มา: ไออาร์ พลัส