นายระพีภัทร์ฯ กล่าวขอบคุณฝ่ายจีนที่สนับสนุนงบประมาณราว 100 ล้านบาทให้กับฝ่ายไทยผ่านกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของกรอบความร่วมมือนี้ ซึ่งมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนไทย จีน และประเทศที่เชื่อมโยงเส้นทางดังกล่าว ในส่วนของความหลากหลายทางชีวภาพ การชลประทาน การประมงน้ำจืด และพันธุ์ปลาและพืชน้ำ อันเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตและการพัฒนาที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ นายระพีภัทร์ฯ ได้หารือและแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ในประเด็นความร่วมมือเชิงนโยบายกับฝ่ายจีน โดยทั้ง 2 ฝ่ายชูนโยบายด้านเกษตรกรรมยั่งยืน นโยบาย 3S ว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าเกษตรและอาหาร ความมั่นคงด้านเกษตรกรรม และความยั่งยืนภาคการเกษตร นโยบาย BCG การพัฒนาเกษตรกรอัจฉริยะ การขจัดปัญหาความยากจน และการพัฒนาและวิจัยวัคซีนปศุสัตว์ เพื่อเตรียมพร้อมและปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาวะโลกในยุค post covid อันใกล้ ซึ่งฝ่ายจีนเห็นด้วยกับฝ่ายไทยที่จะกำหนดประเด็นความร่วมมือในอนาคตโดยอ้างอิงจากนโยบายข้างต้น
ต่อมาในที่ประชุม นายระพีภัทร์ฯ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ตระหนักถึงความสำคัญในประเด็นการค้าและการเปิดตลาดการค้าสินค้าเกษตรและอาหารกับจีนอย่างมาก เนื่องจากเป็นตลาดนำเข้าสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะเดียวกันก็เป็นตลาดที่ทรงอิทธิพลและมีอำนาจในการต่อรองสูง จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของสินค้าเกษตรและอาหารของไทย กระทรวงเกษตรฯ กำหนดจัดประชุม JTC-SPS ครั้งที่ 7 กับกระทรวงศุลกากรจีน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึง โดยมีสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติเป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย พร้อมทั้งได้มอบหมายกรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมท่าทีการเจรจาแก้ไขปัญหาและอุปสรรค เพื่ออำนวยความสะดวกและส่งเสริมการค้าและขยาย
การเปิดตลาดสินค้าเกษตรและอาหารไทยสู่จีน
นายระพีภัทร์กล่าวปิดการประชุมพร้อมทั้งกล่าวอวยพรฝ่ายจีนในโอกาสการเฉลิมฉลองวันตรุษจีนเป็นภาษาจีนกลาง ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของการประชุมในครั้งนี้และสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีนได้เป็นอย่างดี สร้างความพอใจให้กับฝ่ายจีนเป็นอย่างมาก โดยฝ่ายจีนให้คำมั่นที่จะจับมือกับฝ่ายไทยในการเร่งรัดการผลักดันความร่วมมือด้านการพัฒนาภาคเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ต่อไป
ที่มา: สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์