ตลอดหลายปีที่ผ่านมาองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก Word Animal Protection ได้ทำงานอย่างหนักร่วมกับองค์กร Green Korea United เพื่อยุติอุตสาหกรรมที่โหดร้ายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 รวมถึงการแสวงหาข้อตกลงกับองค์กร Bear Farmers Association และรัฐบาลเกาหลีใต้ในการพยายามยุติฟาร์มดีหมีเพื่อให้แน่ใจว่าหมีที่มีชีวิตอยู่เหล่านี้จะเป็นหมีรุ่นสุดท้ายที่ต้องทนทุกข์ทรมาน โดยทั้งสององค์กรได้ร่วมรณรงค์เพื่อยุติการทำฟาร์มดีหมีทั้งที่ผิดกฎหมายและถูกกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้
ปัจจุบัน แม้การสกัดน้ำดีหมีจากตัวหมีโดยตรงเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้ แต่การฆ่าหมีที่มีอายุ 10 ปีเพื่อนำถุงน้ำดีมาใช้ทางการแพทย์แผนโบราณยังเป็นเรื่องถูกกฎหมาย ดังนั้นประกาศฉบับนี้จะนำไปสู่การลดโอกาสในแสวงหาประโยชน์จากหมีเหล่านี้และปิดฉากอุตสาหกรรมสกัดน้ำดีหมีที่ผ่านมาถึง 40 ปี
Maya Pastakia ผู้จัดการแคมเปญ - สัตว์ป่าไม่ใช่ยา องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวว่า:
"เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งเพราะความสำเร็จในครั้งนี้เป็นผลจากการที่เราร่วมทำงานอย่างต่อเนื่องกับองค์กร Green Korea United มานานกว่า 18 ปี การสกัดน้ำดีหมีเป็นธุรกิจที่โหดร้ายและทำให้หมีถูกตีตราว่าเป็นเพียงสินค้า ตลอดชีวิตของหมีเหล่านี้ต้องอยู่ในกรงเล็กๆ ที่คับแคบ ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างมาก ไม่สามารถปีนต้นไม้ เล่น และหาอาหารได้เหมือนการใช้ชีวิตในป่าตามธรรมชาติ
"รัฐบาลเกาหลีใต้ยืนหยัดอย่างกล้าหาญเพื่อร่วมสร้างชีวิตที่ดีขึ้นของหมี ซึ่งเป็นผลจากการทำงานร่วมกันขององค์กร Bear Farmers Association และองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ที่ร่วมทำงานเพื่อให้เกิดการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์นี้
"ในรายละเอียดของข้อตกลงได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนและเป็นสิ่งยืนยันว่าการทำฟาร์มดีหมีอย่างโหดร้ายจะไม่เป็นที่ยอมรับในประเทศสมัยใหม่อีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีทางเลือกอื่นเช่น สมุนไพร เพราะหมีไม่ใช่ยาและควรใช้ชีวิตอยู่ในป่า"
รัฐบาลเกาหลีใต้ยังวางแผนที่จะสร้างที่พักพิงใหม่ในพื้นที่ Guyre ที่จะสามารถเลี้ยงหมีได้ 49 ตัว และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอีกแห่งในพื้นที่ Seocheon ที่จะสามารถเลี้ยงหมีได้ 70 ตัว องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ยินดีกับแนวทางการพัฒนานี้และคาดหวังให้รัฐบาลเกาหลีใต้ได้มีแผนรองรับที่เพียงพอสำหรับการดูแลหมีที่เหลืออยู่ทั้งหมด ภายหลังเดือนมกราคม พ.ศ. 2026 พร้อมแผนการดูแลหมีอย่างมีมนุษยธรรมก่อนจะถึงเวลานั้น
Kyoungsun Woo ผู้อำนวยการร่วมขององค์กร Green Korea United กล่าวว่า "ข้อตกลงในการยุติอุตสาหกรรมฟาร์มดีหมีเป็นผลจากความพยายามร่วมกันจากประชาชนที่ติดตามความสนใจในประเด็นนี้และเข้าร่วมในแคมเปญช่วยเหลือหมี เราขอเรียกร้องให้กระทรวงสิ่งแวดล้อมเร่งดำเนินงานตามคำประกาศ เพื่อเข้าสู่จุดสิ้นสุดของอุตสาหกรรมนี้
"กระทรวงสิ่งแวดล้อมควรเร่งดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าที่พักพิงสำหรับหมีที่จะสร้างขึ้นในพื้นที่ Guyre และพื้นที่ Seocheon จะสามารถดูแลและปกป้องหมีที่เหลืออยู่ในฟาร์มอย่างปลอดภัย"
ระหว่างปี พ.ศ. 2557-2560 กระทรวงสิ่งแวดล้อมได้ทำหมันหมีที่ถูกขังในฟาร์มดีหมีจำนวน 967 ตัว ทำให้จำนวนหมีในฟาร์มมีจำนวนลดลงถึง 75% ซึ่งเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ทั่วประเทศเกาหลีใต้ มีหมี 360 ตัวที่ยังคงถูกขังอยู่ในฟาร์ม เทียบกับจำนวนหมี 1,400 ตัวที่ถูกขังในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมนี้อยู่ในจุดสูงสุด
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกจะยังคงทำงานเพื่อยุติการค้าดีหมีทั่วเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามและประเทศจีน เพื่อปกป้องหมีและช่วยเหลือหมีที่กำลังทนทุกข์ทรมานให้เป็นเพียงหมีรุ่นสุดท้าย
ที่มา: ทริปเปิล เอท ไอเดียส์