โคเวสโตรมุ่งขยายพอร์ตโฟลิโอของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรทางเลือก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะมีผลิตภัณฑ์สมดุลมวลสารเทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทนเพิ่มเติมเข้ามาในครึ่งปีหลังของปี 2565 หลังจากการเปิดตัวในตลาดยุโรป
ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ผลิตโดยใช้วัตถุดิบที่เป็นชีวมวล หรือชีวมวลหมุนเวียน (เช่น น้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว) ซึ่งมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่น้อยลงเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากฟอสซิล โดยยังคงคุณภาพและคุณสมบัติ และสามารถนำไปสู่กระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมปลายน้ำได้โดยไม่ต้องมีการปรับด้านเทคนิค ซึ่งในบริบทนี้ ผลิตภัณฑ์จะถูกรับรองตามมาตรฐาน ISCC Plus
"เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยพลังและเติบโตเร็วที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์ TPU ของเราซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ไอที อิเล็กทรอนิกส์ รองเท้า แผ่นฟิล์มและชีท และอื่นๆ อีกมากมาย เรามุ่งหวังที่จะสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นรวมถึง TPU แบบสมดุลมวลสารที่ผลิตโดยตรงจากฐานการผลิตในภูมิภาคนี้ของเรา" ดร. อันเดรีย ไมเออร์-ริชเตอร์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ TPU ระดับโลกของโคเวสโตรกล่าว
"ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่ในไม่ช้านี้เราจะสามารถช่วยลูกค้าในเอเชียแปซิฟิกให้ลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้ด้วยโซลูชั่นแบบดรอปอินนี้ ตามแนวทางคาร์บอนฟุตปริ้นท์ในระดับโลกของเรา" คุณลิซ่า เคเทลเซ่น หัวหน้าฝ่ายขายและพัฒนาตลาดธุรกิจ TPU โคเวสโตร เอเชียแปซิฟิกกล่าว "ด้วยการรับรองมาตรฐาน ISCC Plus เรามุ่งที่จะเพิ่มความโปร่งใสจากขั้นตอนการซื้อวัตถุดิบจนถึงกระบวนการผลิตและกระจายสินค้าไปยังลูกค้า นี่คือก้าวสำคัญในการดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของเราที่จะเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ"
ความหลากหลายมากขึ้นของกลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสติก TPU ที่ยั่งยืนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โคเวสโตรได้เปิดตัวหลากหลายผลิตภัณฑ์ TPU ที่ใช้ทรัพยากรทางเลือก เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น บริษัท VAUDE ซึ่งผลิตรองเท้าและอุปกรณ์การเดินเขา ใช้โฟมรองเท้าที่ผลิตมาจาก TPU ชีวภาพบางส่วนในรองเท้าเดินเขารุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Lavik Eco นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ ก็มีองค์ประกอบที่ผลิตบางส่วนด้วย CO2 แทนวัตถุดิบฟอสซิล กลุ่มผลิตภัณฑ์ Desmopan(R) ของโคเวสโตรก็ประกอบด้วยสินค้าที่รีไซเคิลแบบเต็มรูปแบบ และถูกนำไปใช้ในเคสโทรศัพท์มือถือของบริษัทดัทช์ยี่ห้อ Fairphone
เทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทนเป็นพลาสติกที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายรูปแบบ มีระดับความแข็งหลายระดับ มีความยืดหยุ่นแต่ทนทาน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำไปใช้ในสินค้าได้หลากหลาย
สมดุลมวลสารสร้างความโปร่งใสการซัพพลายผลิตภัณฑ์สมดุลมวลสารเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานระดับโลกของโคเวสโตรที่จะมุ่งสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการเพิ่มการใช้ทรัพยากรทางเลือก อาทิ วัตถุดิบชีวภาพ ขยะพลาสติก และ CO2 รวมถึงพลังงานทดแทนต่างๆ อีกทั้งบริษัทยังได้ร่วมมือกับเหล่าพาร์ทเนอร์เพื่อพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีการรีไซเคิลอีกด้วย
ในสมดุลมวลสาร ฟอสซิลและวัตถุดิบทางเลือกจะถูกผสมเข้าไปในกระบวนการผลิต แต่จะถูกแยกส่วนทางบัญชี ห่วงโซ่การติดตาม (chain-of-custody method) ทำให้สามารถติดตามวัตถุดิบที่ใช้ในห่วงโซ่การผลิตทั้งหมด และทำให้สามารถใส่ทรัพยากรทางเลือก อาทิ ชีวมวล เข้าไปเป็นองค์ประกอบในสายการผลิตโดยระบุชนิดของผลิตภัณฑ์ได้ จนถึงปัจจุบัน มีโรงงานผลิตของโคเวสโตรสามแห่งในยุโรปและเอเชีย-แปซิฟิกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISCC Plus และในอนาคตก็จะมีเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงที่โรงงานที่ชางหัว (Changhua) ในประเทศไต้หวันด้วย ซึ่งถือเป็นฐานการผลิต TPU ที่ใหญ่ที่สุดของ โคเวสโตร ในเอเชีย ซึ่งคาดว่าจะได้รับการรับรองในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565
ISCC ("International Sustainability and Carbon Certification") เป็นระบบการรับรองระดับนานาชาติ เพื่อรับรองมาตรฐานความยั่งยืนของชีวมวลและพลังงานชีวภาพ โดยเป็นมาตรฐานที่ประยุกต์ใช้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน และได้รับการยอมรับทั่วโลก
เกี่ยวกับโคเวสโตรโคเวสโตรเป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัสดุโพลิเมอร์รายใหญ่ที่สุดในระดับโลก ด้วยยอดขายกว่า 10.7 พันล้านยูโรในปี 2020 ธุรกิจของโคเวสโตรให้ความสำคัญกับการผลิตวัสดุโพลิเมอร์ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงและการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันในหลายๆด้าน และในการดำเนินการนี้ โคเวสโตรกำลังก้าวไปสู่การหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ อุตสาหกรรมหลักที่เป็นกลุ่มลูกค้าของโคเวสโตร คือ อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง อุตสาหกรรมก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์และไม้ รวมถึงอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน นอกจากนี้ยังรวมถึง กีฬาและสันทนาการ เครื่องสำอางและอึตสหกรรมเคมีเองอีกด้วย โคเวสโตรมีศูนย์การผลิตอยู่ 33 แห่งทั่วโลก และมีพนักงานประจำและเทียบเท่าประมาณ 16,500 คน (ข้อมูล ณ สิ้นปี 2563)
ที่มา: มิดัส คอมมิวนิเคชั่น อินเตอร์เนชั่นเนล